กบง.เคาะรีดเงินน้ำมันทุกชนิด 20 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้นอี 20 และดีเซลที่รีดเพิ่ม 40 สตางค์โปะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มหลังราคาน้ำมันโลกดิ่ง แต่ประชาชนมีเฮ ให้ผู้ค้าลดราคาขายปลีกเบนซินโซฮอล์ 20 สตางค์ต่อลิตร เว้นดีเซลไม่เปลี่ยนแปลงมีผลพรุ่งนี้ รักษาระดับส่วนต่างอี 20 กับโซฮอล์ 91 เป็น 3 บาทต่อลิตร
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนของกลุ่มน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ 20 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้นแก๊สโซฮอล์อี 20 และดีเซล ที่เก็บเพิ่ม 40 สตางค์ต่อลิตร และผลจากการจัดเก็บดังกล่าวยังทำให้ผู้ค้าน้ำมันสามารถลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ได้ 20 สตางค์ต่อลิตร เว้นดีเซลไม่เปลี่ยนแปลงมีผลตั้งแต่ 28 ก.พ.เป็นต้นไป
“มติดังกล่าวจะทำให้ราคาแก๊สโซฮอล์อี 20 มีส่วนต่างราคาจากแก๊สโซฮอล์ 91 เหมือนเดิม 3.00 บาทต่อลิตร เพื่อจูงใจการใช้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้การใช้อี 20 เพิ่มเป็น 2 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งถือเป็นอัตราการใช้ที่เพิ่มขึ้นมาก” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
สำหรับการเก็บเงินกองทุนฯ ดังกล่าวส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายลดลงจากเดิมติดลบวันละ 50 ล้านบาท เหลือวันละ 21 ล้านบาท และฐานะสุทธิกองทุนน้ำมันฯ วันที่ 24 ก.พ.ยังคงติดลบที่ 15,492 ล้านบาท โดยล่าสุดได้ใช้เงินกู้เพิ่มเป็น 7,300 ล้านบาท
ทั้งนี้ การปรับเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้เป็นไปตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับลดลง โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ที่ 113 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับมาอยู่ที่สัปดาห์นี้เฉลี่ย 108.81 เหรียญต่อบาร์เรล หรือลดลงเฉลี่ย 3.85 เหรียญต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม บมจ.ปตท.ได้รายงานสถานการณ์น้ำมันว่าจากนี้ไปยังมีแนวโน้มที่ราคาน้ำมันตลาดโลกช่วง เม.ย.-มิ.ย.จะปรับลดลงจากช่วงไตรมาสแรกลงอีกเนื่องจากหมดช่วงฤดูหนาวที่ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและยุโรปยังไม่ฟื้นตัวนัก