ASTVผู้จัดการรายวัน - ปตท.อ้อนรัฐปรับขึ้นราคา NGV หวั่นกระทบกำไรหดลงทุกปี เผยปีนี้คงต้องแบกรับภาระขาดทุนเกือบ 2 หมื่นล้านบาท จากต้นทุนราคาก๊าซฯ ที่เพิ่มขึ้นและปริมาณความต้องการที่โตขึ้น
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะต้องแบกรับภาระขาดทุนจากก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) เกือบ 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่รับภาระขาดทุน 1 หมื่นล้านบาท หากรัฐไม่มีการปรับขึ้นราคา NGV จะมีผลทำให้กำไรของ ปตท.ปรับตัวลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากต้นทุนก๊าซ NGV ปรับตัวเพิ่มขึ้น และปริมาณความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น 40%จากจำนวนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้มีปัญหาการขยายปั๊ม NGV ไม่เพียงพอ
“ปตท.จะกำไรเพิ่มขึ้นกว่านี้หากรัฐขยับขึ้นราคา NGV เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง”
สำหรับผลการดำเนินงาน ปตท.งวดปี 2555 มีกำไรสุทธิ 1.04 แสนล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่กำไรสุทธิ 1.05 แสนล้านบาท ขณะที่รายได้ในปี 2555 ประมาณ 2.79 ล้านล้านบาท โตขึ้นกว่าปีก่อน ที่มียอดขายรวม 2.47 ล้านล้านบาท
แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรงงานปิโตรเคมีในเครือ ปตท.จะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาพม่าหยุดส่งก๊าซฯ ในช่วงวันที่ 5-12 เม.ย.นี้ เนื่องจากโรงงานปิโตรเคมีในกลุ่ม ปตท.มีการผลิตไฟฟ้าใช้ภายในเอง รวมทั้งโรงงานปิโตรเคมีของไออาร์พีซี โดยพึ่งพาไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคน้อยมาก
ขณะเดียวกัน วันนี้ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้เปิดตัว IRPC Process Licence สำหรับการผลิต Green ABS ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตเม็ดพลาสติก ABS จากยางธรรมชาติภายใต้เทคโนโลยีกรีน ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นับเป็นครั้งแรกที่ก้าวสู่การเป็นเจ้าของเทคโนโลยีการผลิตของตนเอง และพร้อมที่จะถ่ายทอดให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ด้วยเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่อุตสาหกรรมปิโตรเคมี
นายอธิคม เติบศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการส่งเสริมวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านการผลิต กระบวนการผลิตและการบริการอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรับผิดชอบต่อสังคม นับเป็นบริษัทแรกของกลุ่ม ปตท.ที่สามารถทำการวิจัยและพัฒนาจนพร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ผู้ประกอบการรายอื่นนไปใช้ในกระบวนการผลิต ตอกย้ำการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและการกลั่นของอาเซียน
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะต้องแบกรับภาระขาดทุนจากก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) เกือบ 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่รับภาระขาดทุน 1 หมื่นล้านบาท หากรัฐไม่มีการปรับขึ้นราคา NGV จะมีผลทำให้กำไรของ ปตท.ปรับตัวลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากต้นทุนก๊าซ NGV ปรับตัวเพิ่มขึ้น และปริมาณความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น 40%จากจำนวนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้มีปัญหาการขยายปั๊ม NGV ไม่เพียงพอ
“ปตท.จะกำไรเพิ่มขึ้นกว่านี้หากรัฐขยับขึ้นราคา NGV เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง”
สำหรับผลการดำเนินงาน ปตท.งวดปี 2555 มีกำไรสุทธิ 1.04 แสนล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่กำไรสุทธิ 1.05 แสนล้านบาท ขณะที่รายได้ในปี 2555 ประมาณ 2.79 ล้านล้านบาท โตขึ้นกว่าปีก่อน ที่มียอดขายรวม 2.47 ล้านล้านบาท
แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรงงานปิโตรเคมีในเครือ ปตท.จะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาพม่าหยุดส่งก๊าซฯ ในช่วงวันที่ 5-12 เม.ย.นี้ เนื่องจากโรงงานปิโตรเคมีในกลุ่ม ปตท.มีการผลิตไฟฟ้าใช้ภายในเอง รวมทั้งโรงงานปิโตรเคมีของไออาร์พีซี โดยพึ่งพาไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคน้อยมาก
ขณะเดียวกัน วันนี้ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้เปิดตัว IRPC Process Licence สำหรับการผลิต Green ABS ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตเม็ดพลาสติก ABS จากยางธรรมชาติภายใต้เทคโนโลยีกรีน ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นับเป็นครั้งแรกที่ก้าวสู่การเป็นเจ้าของเทคโนโลยีการผลิตของตนเอง และพร้อมที่จะถ่ายทอดให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ด้วยเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่อุตสาหกรรมปิโตรเคมี
นายอธิคม เติบศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการส่งเสริมวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านการผลิต กระบวนการผลิตและการบริการอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรับผิดชอบต่อสังคม นับเป็นบริษัทแรกของกลุ่ม ปตท.ที่สามารถทำการวิจัยและพัฒนาจนพร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ผู้ประกอบการรายอื่นนไปใช้ในกระบวนการผลิต ตอกย้ำการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและการกลั่นของอาเซียน
