กรมเจ้าท่าเบรกขึ้นค่าโดยสารเรือ ตั้งกก.ศึกษารายละเอียดต้นทุนเพิ่ม 3 เดือน ยันราคาดีเซลปัจจุบันยังไม่ถึงระดับที่ตกลงกันว่าต้องปรับขึ้นค่าโดยสาร
นายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า จากที่ผู้ประกอบการเรือด่วนเจ้าพระยา เรือคลองแสนแสบ และเรือผู้โดยสารข้ามฟาก ซึ่งได้เสนอขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร โดยระบุว่า ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับนโยบายการปรับค่าแรง 300 บาทต่อวัน และค่าน้ำมัน โดยล่าสุดได้มีการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการแล้ว เบื้องต้นที่ประชุมมีมติว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นค่าโดยสารในขณะนี้ เนื่องจากเงื่อนไขที่ได้ตกลงร่วมกันระหว่างกรมเจ้าท่าและผู้ประกอบการระบุว่า หากราคาน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับ 29-33 บาทต่อลิตร จะยังไม่มีการปรับค่าโดยสาร
ทั้งนี้ กรณีที่ผู้ประกอบการระบุว่าได้รับผลกระทบนั้นจะนำข้อมูลของผู้ประกอบการมาศึกษาเพื่อหาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมอีกครั้ง โดยคณะทำงานจะใช้เวลาในการศึกษาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม 3 เดือน คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
“ที่ประชุมได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อศึกษาความเหมาะก่อนที่จะมีการกำหนดอัตราค่าโดยสาร โดยจะต้องมีการพิจารณาถึงรายได้ต่อวัน ต้นทุนการซ่อมบำรุงเรือ จำนวนผู้โดยสารว่ามีความสอดคล้องกับรายได้หรือไม่ ราคาน้ำมัน ค่าแรงจ้างพนักงาน นอกจากนี้ จะต้องนำเรื่องของเสียภาษีเรือมาคิดด้วยว่า ทั้งหมดผู้ประกอบการแบกรับภาระอยู่เท่าไรเพื่อให้มีความรอบคอบมากที่สุด ยืนยันว่าระหว่างนี้จะไม่มีการปรับขึ้นค่าโดยสาร เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับ 29-33 บาทต่อลิตร จนกว่าราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นเกินอัตรา 33 บาทต่อลิตร ถึงจะต้องพิจารณาเรื่องปรับขึ้นค่าโดยสาร” นายณัฐกล่าว
สำหรับโครงการให้บริการคนพิการในการใช้บริการทางเรือโดยสารนั้น ที่ผ่านมาได้หารือร่วมกับผู้ประกอบการเรือด่วนเจ้าพระยาถึงการปรับปรุงอุปกรณ์ ทางขึ้น-ลง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คนพิการ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีการปรับปรุงเรือโดยสารประมาณ 2-3 ลำ ทั้งนี้ ในส่วนของเรือด่วนคลองแสนแสบนั้น อยู่ระหว่างการหาวิธีเพื่ออำนวยความสะดวกคนพิการสำหรับในอนาคตหากมีการปรับปรุงเรือเรียบร้อย คาดว่าจะต้องมีการกำหนดตารางเดินทางให้ชัดเจนว่า เรือโดยสารที่ปรับปรุงเพื่อมารองรับคนพิการจะให้บริการในช่วงเวลาใด ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกให้การให้บริการ
นายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า จากที่ผู้ประกอบการเรือด่วนเจ้าพระยา เรือคลองแสนแสบ และเรือผู้โดยสารข้ามฟาก ซึ่งได้เสนอขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร โดยระบุว่า ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับนโยบายการปรับค่าแรง 300 บาทต่อวัน และค่าน้ำมัน โดยล่าสุดได้มีการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการแล้ว เบื้องต้นที่ประชุมมีมติว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นค่าโดยสารในขณะนี้ เนื่องจากเงื่อนไขที่ได้ตกลงร่วมกันระหว่างกรมเจ้าท่าและผู้ประกอบการระบุว่า หากราคาน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับ 29-33 บาทต่อลิตร จะยังไม่มีการปรับค่าโดยสาร
ทั้งนี้ กรณีที่ผู้ประกอบการระบุว่าได้รับผลกระทบนั้นจะนำข้อมูลของผู้ประกอบการมาศึกษาเพื่อหาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมอีกครั้ง โดยคณะทำงานจะใช้เวลาในการศึกษาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม 3 เดือน คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
“ที่ประชุมได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อศึกษาความเหมาะก่อนที่จะมีการกำหนดอัตราค่าโดยสาร โดยจะต้องมีการพิจารณาถึงรายได้ต่อวัน ต้นทุนการซ่อมบำรุงเรือ จำนวนผู้โดยสารว่ามีความสอดคล้องกับรายได้หรือไม่ ราคาน้ำมัน ค่าแรงจ้างพนักงาน นอกจากนี้ จะต้องนำเรื่องของเสียภาษีเรือมาคิดด้วยว่า ทั้งหมดผู้ประกอบการแบกรับภาระอยู่เท่าไรเพื่อให้มีความรอบคอบมากที่สุด ยืนยันว่าระหว่างนี้จะไม่มีการปรับขึ้นค่าโดยสาร เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับ 29-33 บาทต่อลิตร จนกว่าราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นเกินอัตรา 33 บาทต่อลิตร ถึงจะต้องพิจารณาเรื่องปรับขึ้นค่าโดยสาร” นายณัฐกล่าว
สำหรับโครงการให้บริการคนพิการในการใช้บริการทางเรือโดยสารนั้น ที่ผ่านมาได้หารือร่วมกับผู้ประกอบการเรือด่วนเจ้าพระยาถึงการปรับปรุงอุปกรณ์ ทางขึ้น-ลง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คนพิการ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีการปรับปรุงเรือโดยสารประมาณ 2-3 ลำ ทั้งนี้ ในส่วนของเรือด่วนคลองแสนแสบนั้น อยู่ระหว่างการหาวิธีเพื่ออำนวยความสะดวกคนพิการสำหรับในอนาคตหากมีการปรับปรุงเรือเรียบร้อย คาดว่าจะต้องมีการกำหนดตารางเดินทางให้ชัดเจนว่า เรือโดยสารที่ปรับปรุงเพื่อมารองรับคนพิการจะให้บริการในช่วงเวลาใด ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกให้การให้บริการ