xs
xsm
sm
md
lg

“มาสเตอร์คูล” สบช่อง พม่าตัดไฟเร่งยอดขาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพชัย วีระมาน
มาสเตอร์คูลมองวิกฤตเป็นโอกาส ชูจุดแข็งประหยัดไฟ 10 เท่า รับศึกหน้าร้อนสู้แอร์ รับปัญหาตัดไฟเหตุพม่าจะหยุดผลิตและส่งก๊าซให้ไทยและปัญหาค่าไฟเพิ่ม มั่นใจส่งยอดขายครึ่งปีแรกทำได้ 60% จากเป้าทั้งปี 400 ล้านโตพรวด 80% ชี้แผน 5 ปี รายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท เน้นจับมือพันธมิตรขยายกำลังการผลิตลุยเออีซี ปีหน้าพร้อมเข้าตลาด MAI

นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่พม่าเตรียมที่จะหยุดผลิตและส่งก๊าซให้ไทยในช่วงเดือน เม.ย.นี้ ถือเป็นปัจจัยบวกที่ดีต่อการดำเนินธุรกิจของมาสเตอร์คูล โดยบริษัทเตรียมที่จะจัดทำโปรโมชันพิเศษขึ้นมาในช่วงหน้าร้อนนี้ ที่สำคัญพร้อมชูจุดแข็งในเรื่องการประหยัดไฟที่ทำได้ดีกว่าเครื่องปรับอากาศมากกว่า 10 เท่า เชื่อว่าจะส่งผลต่อยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกนี้ทำได้ถึง 60% ของยอดขายรวมที่วางไว้ หรือตั้งแต่ช่วงเดือน ก.พ.-พ.ค.นี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตมากกว่าปกติไม่ต่ำกว่า100% ได้

“หน้าร้อนปีนี้ที่คาดการณ์กันไว้ว่าจะมาเร็วกว่าปกติ มองว่าจะส่งผลให้ตลาดรวมเครื่องทำความเย็นทั้งเครื่องปรับอากาศและพัดลมรวมถึงพัดลมไอน้ำ มูลค่ารวมที่ 20,000 กว่าล้านบาทนี้ จะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากกว่าปีก่อน โดยเฉพาะเรื่องของโปรโมชันด้านราคาจะถูกนำมาใช้มากขึ้น แต่ทั้งนี้เชื่อว่าเครื่องปรับอากาศจะมีการปรับราคาขึ้นเช่นกัน

จากปัญหาต้นทุนด้านแรงงานที่เพิ่มขึ้น บวกกับปีนี้ปัจจัยด้านค่าไฟที่เพิ่มสูงขึ้น อาจจะถึง 4 บาทต่อหน่วย มองว่าจะเป็นโอกาสของกลุ่มพัดลมไอน้ำเป็นอย่างมาก เพราะสามารถประหยัดไฟได้มากกว่า บวกกับราคาที่ถูกกกว่าเครื่องปรับอากาศด้วย ดังนั้นมาสเตอร์คูลจึงพร้อมใช้งบการตลาดกว่า 10 ล้านบาท สำหรับกระตุ้นยอดขายในช่วงหน้าร้อนนี้มั่นใจว่าจะมียอดขายเติบโตขึ้นอย่างมาก”

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้จะมุ่งขยายตลาดสู่กลุ่มเอ็นยูสเซอร์ และธุรกิจขนาดเล็กมากขึ้น โดยมุ่งเพิ่มช่องทางขายผ่านแม็คโครและโฮมโปรให้ครบทุกสาขาทั่วประเทศ จากปกติมีขายเพียงในสาขา กทม.และปริมณฑลเท่านั้น พร้อมเพิ่มตัวแทนจำหน่ายจากที่มีอยู่ 50-60 รายให้เพิ่มมากขึ้น เชื่อว่าจะทำให้จากเดิมยอดขายในกลุ่มนี้ จากเดิมอยู่ที่ 25 ล้านบาทจะเพิ่มเป็น 80 ล้านบาท หรือโตขึ้น 3 เท่าตัวได้ 

ส่วนแผนการทำตลาดต่างประเทศนั้น ปีนี้จะให้ความสำคัญกับตลาดเออีซีมากขึ้น โดยได้เริ่มเข้าไปทำตลาดบ้างแล้ว เช่น ลาว และพม่า รวมถึงอินโดนีเซีย ศรีลังกา และอินเดีย จากปกติตลาดใหญ่คือตะวันออกกลาง มองว่าปีนี้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศยังอยู่ที่ 25% แต่ในแง่การเติบโตยังมีต่อต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มประเทศในเออีซีนั้นเชื่อว่าอินโดนีเซียเป็นตลาดที่น่าจะมีอัตราการเติบโตของยอดขายดีที่สุด เนื่องจากมีประชากรสูงมาก และเศรษฐกิจกำลังเติบโต โดยทั้งปีบริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมเติบโตขึ้นถึง 80% คิดเป็นรายได้ที่ 400 ล้านบาท แบ่งออกเป็น ต่างประเทศ 25% และในประเทศ 75% 

นายนพชัยกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม 5 ปีหลังจากนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าจะมีรายได้ถึง 1,000 ล้านบาท โดยในปีหน้าพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ MAI เพื่อระดมทุนในการขยายกำลังการผลิต สร้างตลาดต่อไปในอนาคต พร้อมทั้งมุ่งหาพันธมิตรเข้ามาช่วยในเรื่องการขยายกำลังการผลิตเพื่อลดความเสี่ยงด้วย ถึงเวลานั้นมองว่าตลาดพัดลมไอน้ำจะมีมูลค่าราว 2,000 ล้านบาท
และมาสเตอร์คูลจะมีส่วนแบ่งกว่า 70% ครองอันดับหนึ่งในตลาดได้
กำลังโหลดความคิดเห็น