แอร์โรว์ ซินดิเคท น้องใหม่ป้ายแดง ตั้งราคาขายหุ้นละ 5.50 บาทต่อหุ้น เปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 17-19 ธ.ค.นี้ พร้อมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันคริสต์มาส 25 ธันวาคมนี้ บล.ฟิลลิป ที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำอันเดอร์ไตฯ ระบุ การกำหนดราคาไอพีโอแจกส่วนลดให้นักลงทุนถึง 45.58% เมื่อเทียบกับ P/E ของตลาด MAI ระบุ เป็นราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน มั่นใจกระแสตอบรับเยี่ยม เหตุผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องทุกปี ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ด้านผู้บริหารเผยนำเงินทุนที่ได้ไปใช้ขยายกิจการ และชำระหนี้ วางเป้ารายได้ปีนี้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 20%
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ ARROW เปิดเผยว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ ARROW ในราคาหุ้นละ 5.50 บาท ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท โดยมีอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ 12.12 เท่า อีกทั้งการกำหนดราคาดังกล่าว ยังมีส่วนลดให้แก่นักลงทุนผู้จองซื้อถึง 45.58% เมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/E ของตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งอยู่ที่ 20.27 เท่า
ทั้งนี้ ARROW จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกจำนวน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นร้อยละ 25 ของทุนชำระแล้ว การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ แบ่งเป็นการเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 45 ล้านหุ้น และเสนอขายให้แก่พนักงานของบริษัท และบริษัทย่อยจำนวน 5 ล้านหุ้น โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย 3 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะเปิดให้จองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 17-19 ธันวาคมนี้ และจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 25 ธันวาคม 2555 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “ARROW”
“การกำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอของ ARROW ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีความน่าสนใจอย่างมาก ประกอบกับ ARROW มีจุดแข็งตรงที่มีความโดดเด่นในอุตสาหกรรม ก่อสร้าง และโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตทุกปี ซึ่งทุกอาคารมีส่วนประกอบของท่อร้อยสายไฟฟ้า และท่อประปา
นอกจากนี้ ยังมีความมั่นคงทางด้านการเงิน โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนหรือ D/E ratio ที่ต่ำมาก และภายหลังการเพิ่มทุนจะลดลงเหลือต่ำกว่า 0.5 เท่า ด้วยโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งนี้จะทำให้มีศักยภาพในการเติบโตต่อไปอย่างมั่นคง
ดังนั้น จึงทำให้มั่นใจว่าหุ้นเพิ่มทุนของ ARROW จะได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม เมื่อเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 17-19 ธ.ค.นี้ และคาดว่าจะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่นักลงทุนด้วยเช่นกัน” นายวิชากล่าวในที่สุด
นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ ARROW กล่าวว่า ด้วยจุดแข็งของบริษัทตรงที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านการผลิตท่อประเภทต่างๆ มาเกือบ 20 ปี มีความโดดเด่นในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง และโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยทุกอาคารมีส่วนประกอบของท่อร้อยสายไฟฟ้า และท่อประปา และ ARROW ยังเป็นผู้นำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ท่อเหล็กร้อยสายไฟฟ้า ท่อเหล็กอ่อน ท่อเหล็กอ่อนกันน้ำ ขณะที่ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ที่สำคัญบริษัทได้รับสิทธิประโยชน์จาก BOI โดยเริ่มใช้สิทธิเมื่อต้นปี 2555 ที่ผ่านมา
ดังนั้น จึงเชื่อว่าการเปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอของบริษัทในครั้งนี้ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างแน่นอน สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปใช้ในการซื้อที่ดิน และเครื่องจักรสำหรับขยายกำลังการผลิต เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อต่อยอดการดำเนินธุรกิจในอนาคตในการเพิ่มศักยภาพของบริษัทให้มีความแข็งแกร่ง และมีอัตราการเติบโตที่ดี
โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 20% และสำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนที่ผ่านมา ARROW มีรายได้รวมทั้งสิ้น 587 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 74.30 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2554 ซึ่งตลอดทั้งปี มีรายได้รวมทั้งสิ้น 681.60 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 53.21 ล้านบาท