xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” จับมือเอกชนตั้งคณะทำงานร่วมวางแผนถก FTA ไทย-อียู และแก้ข้อกีดกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“พาณิชย์” ถกภาคเอกชน ดันตั้งคณะทำงานร่วม 3 ฝ่าย หารือกำหนดท่าทีเจรจาเอฟทีเอไทย-อียู และร่วมมือแก้ไขปัญหาการค้า พร้อมเดินหน้าเตรียมความพร้อมรับมือเปิดเออีซีปี 58

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการหารือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับความร่วมมือทางการค้า วานนี้ (18 ก.พ.) ว่า ได้เห็นชอบให้จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมา 2 ชุด โดยชุดแรกเป็นคณะทำงานเฉพาะกิจ 3 ฝ่าย ได้แก่ ภาครัฐบาล เอกชน และประชาสังคม ทำหน้าที่ติดตามการเจรจาเปิดการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะเริ่มเจรจาอย่างเป็นทางการวันที่ 4-6 มี.ค.นี้ และอีกชุดเป็นคณะทำงานประสานความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน ประกอบด้วยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เพื่ออำนวยความสะดวกการค้าในทุกด้าน โดยทั้ง 2 ชุดมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน

ทั้งนี้ ในการเดินทางเยือนเบลเยียมอย่างเป็นทางการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วันที่ 4-6 มี.ค.นี้ รัฐบาลไทยจะมีการประกาศเปิดเจรจาเอฟทีเอไทย-อียูอย่างเป็นทางการ โดยกระทรวงพาณิชย์ในฐานะเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งหากฝ่ายใดได้รับผลกระทบจะมีการเยียวยาช่วยเหลือ โดยมั่นใจว่าการเจรจาเอฟทีเอรอบนี้ จะก่อให้ประโยชน์ในภาพรวมมากกว่าผลเสีย โดยเฉพาะด้านการส่งออกสินค้าที่การเปิดเอฟทีเอจะช่วยลดภาษีการค้าทดแทนการถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ในปี 2558 ได้

สำหรับคณะทำงานประสานความร่วมมือฯ จะทำหน้าที่ดูแล ติดตาม ประสานงานทางการค้าระหว่างประเทศ ทั้งการออกเตือน ปกป้อง และต่อสู้คดีเกี่ยวกับการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (เอ็นทีบี) กับสินค้าไทยที่ไม่เป็นธรรม และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เช่น มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (เซฟการ์ด) รวมถึงมาตรการอื่นๆ จากปัญหาสิ่งแวดล้อม และด้านแรงงาน

นายบุญทรงกล่าวว่า ในการเตรียมความพร้อมสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในอีก 2 ปีข้างหน้า สภาหอการค้าฯ ได้เสนอให้รัฐบาลอำนวยความสะดวกการค้าชายแดนเพิ่มขึ้น เช่น การตั้งศูนย์งานวันสต็อปเซอร์วิสเกี่ยวกับการค้า การเปิดด่านการค้าชายแดนตลอด 24 ชั่วโมง และการเพิ่มจุดผ่านแดนใหม่ เช่น จุดผ่อนปรนกิ่วผาวอก ซึ่งต่อไปกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงทางการค้าทั้งระบบ รวมถึงมาตรการดูแลธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ตลอดจนการปกป้องต่อสู้กับการค้าที่ไม่เป็นธรรม

นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เอกชนสนับสนุนให้รัฐบาลเร่งเปิดเจรจาเอฟทีเอไทย-อียูโดยเร็ว เพราะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยโดยรวม และเชื่อว่าการตั้งคณะทำงานร่วม 3 ฝ่าย จะช่วยให้การเจรจาเอฟทีเอเดินหน้ารวดเร็ว และช่วยในการแก้ไขปัญหาข้อกีดกันทางการค้าได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนสถานการณ์ค่าเงินบาทขณะนี้ไม่มีความน่ากังวล เพราะตอนนี้ค่าเงินเริ่มเสถียรภาพมากขึ้น ไม่ได้ผันผวนรวดเร็วเหมือนช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา แต่อยากให้ภาครัฐช่วยดูแลให้ดี โดยเฉพาะเงินร้อน ที่เข้าออกอย่างรวดเร็ว และหากค่าเงินบาทจะแข็งค่า ก็ขอให้แข็งค่าไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินอื่นๆ ในภูมิภาค เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบทางการค้า
กำลังโหลดความคิดเห็น