“หอการค้าไทย” เปิดยุทธศาสตร์เสริมแกร่งธุรกิจบริการ 4 สาขารับ AEC เตรียมสรุปเป็นสมุดปกขาวเสนอ กรอ.ภายใน 2 เดือน หวังกระตุ้นรัฐและเอกชนพัฒนาธุรกิจไทยร่วมกัน
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการหอการค้าประเทศไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้หอการค้าไทยอยู่ระหว่างการนำผลจากการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เพื่อระดมสมองภาคเอกชนจัดทำยุทธศาสตร์แนวทางพัฒนาธุรกิจบริการของไทย 4 สาขา ได้แก่ ธุรกิจลอจิสติกส์ ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เมื่อเดือน ส.ค. 2555 มาสรุปและจัดทำเป็นสมุดปกขาวเสนอต่อรัฐบาลผ่านการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ในอีก 2 เดือนข้างหน้า เพื่อให้รัฐบาลกำหนดยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนธุรกิจบริการให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก่อนที่ไทยจะเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีธุรกิจบริการหลายรายการเริ่มทยอยเปิดเสรีให้ชาติสมาชิกอาเซียนเข้ามาลงทุนในสัดส่วนการถือหุ้นที่มากกว่าได้แล้ว เช่น ธุรกิจลอจิสติกส์ที่กำหนดให้ต่างชาติลงทุนได้ 70% หากไทยไม่พัฒนาเพื่อรับมือกับการไหลเข้ามาของทุนต่างชาติ ก็จะทำให้ภาคบริการของไทยจากนี้จะไม่สามารถแข่งขันได้ และไทยจะมีฐานะเป็นเพียงแหล่งลงทุนที่ได้ประโยชน์จากการจ้างงานเท่านั้น ไม่มีโอกาสได้ประโยชน์ในฐานะผู้ลงทุน หรือเจ้าของกิจการ ที่จะมีส่วนในผลประโยชน์มหาศาลจากธุรกิจบริการในกรอบของอาเซียน
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการหอการค้าประเทศไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้หอการค้าไทยอยู่ระหว่างการนำผลจากการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เพื่อระดมสมองภาคเอกชนจัดทำยุทธศาสตร์แนวทางพัฒนาธุรกิจบริการของไทย 4 สาขา ได้แก่ ธุรกิจลอจิสติกส์ ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เมื่อเดือน ส.ค. 2555 มาสรุปและจัดทำเป็นสมุดปกขาวเสนอต่อรัฐบาลผ่านการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ในอีก 2 เดือนข้างหน้า เพื่อให้รัฐบาลกำหนดยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนธุรกิจบริการให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก่อนที่ไทยจะเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีธุรกิจบริการหลายรายการเริ่มทยอยเปิดเสรีให้ชาติสมาชิกอาเซียนเข้ามาลงทุนในสัดส่วนการถือหุ้นที่มากกว่าได้แล้ว เช่น ธุรกิจลอจิสติกส์ที่กำหนดให้ต่างชาติลงทุนได้ 70% หากไทยไม่พัฒนาเพื่อรับมือกับการไหลเข้ามาของทุนต่างชาติ ก็จะทำให้ภาคบริการของไทยจากนี้จะไม่สามารถแข่งขันได้ และไทยจะมีฐานะเป็นเพียงแหล่งลงทุนที่ได้ประโยชน์จากการจ้างงานเท่านั้น ไม่มีโอกาสได้ประโยชน์ในฐานะผู้ลงทุน หรือเจ้าของกิจการ ที่จะมีส่วนในผลประโยชน์มหาศาลจากธุรกิจบริการในกรอบของอาเซียน