หวั่นปิดซ่อมสะพานไทย-เบลเยียมจราจรวิกฤต! “คมนาคม” ขยายพื้นที่จัดระเบียบ

“คมนาคม” ขยายผลจัดระเบียบแก้จราจรบนถนนสายหลัก สั่ง ขบ.คุย 40 ห้างใน กทม.จัดพื้นที่จอดรถแท็กซี่ภายใน แทนใช้ผิวถนน และส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมจัดระเบียบจราจรถนนหลักอีก 2 สายที่เชื่อมกับพระราม 4 ไป ทางอนุสาวรีย์-วิภาวดี และพระราม 4 ไปทางประตูน้ำ-วิภาวดี เตรียมรับวิกฤตปิดซ่อมสะพานไทย-เบลเยียม 15 ก.พ.-15 มี.ค.นี้

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานประชุมหารือแก้ไขปัญหาจราจรบนถนนสายหลัก วานนี้ (12 ก.พ.) ว่า ได้ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการขนส่งทางบก (ขบ.), องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.), ตำรวจจราจร, กรุงเทพมหานคร (กทม.) เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อขยายผลการจัดระเบียบการจราจรบนถนนสายหลักเพิ่มอีก 2 สาย จากที่ดำเนินการบนถนนพระราม 4 ไปแล้วมีผลเป็นที่น่าพอใจ และเพื่อเตรียมรับการจราจรจากที่สะพานไทย-เบลเยียม จะมีการปิดซ่อมตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 15 มีนาคมนี้ โดยจะขยายการจัดระเบียบจราจรจากถนนพระราม-สามย่าน-พญาไท-ราชเทวี-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สนามเป้า-สะพานควาย-สวนจตุจักร-ถนนวิภาวดีรังสิต และเส้นที่ 2 จากพระราม 4-ราชดำริ-เซ็นทรัลเวิลด์-ประตูน้ำ-ราชปรารถ-ดินแดง-ถนนวิภาวดีรังสิต

และระยะต่อไปจะขยายการจัดระเบียบไปที่ถนนลาดพร้าว, พหลโยธิน, พระราม 9, รามคำแหง, รัชดาภิเษก พร้อมกันนี้ได้เริ่มดำเนิน 2 โครงการเพิ่มเติม คือ ติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) บริเวณอนุสาวรีย์ฯ เพื่อให้ตำรวจสามารถเห็นปริมาณรถในแต่ละแยกเพื่อระบายรถที่เหมาะสม โดยจะใช้งบจากกองทุน เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ประมาณ 7 แสนบาทดำเนินการ และจัดการอบรมตำรวจจราจร ประมาณ 600-700 คน เพื่อให้เปิดสัญญาณไฟกว่า 300 ทางแยกได้อย่างสัมพันธ์กัน

นายชัชชาติกล่าวว่า ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ทางกรมการขนส่งทางบกได้เชิญผู้บริหาร 40 ห้างสรรพสินค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) มาหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาจราจร เนื่องจากพบว่าด้านหน้าห้างต่างๆ มีการจอดรถสาธารณะบนพื้นผิวถนน กีดขวางการจราจร ซึ่งจะเสนอให้ห้างจัดพื้นที่ภายในไว้สำหรับรองรับรถแท็กซี่หรือรถตู้ ส่วนกระทรวงคมนาคมและกรุงเทพมหานครจะพิจารณาหาพื้นที่จอดแล้วจรตามจุดใกล้เคียงไว้รองรับ

สำหรับมาตรการเหลื่อมเวลานั้น จะเน้นไปที่โรงเรียนเป็นหลัก โดยหลังจากที่เริ่มดำเนินการโรงเรียนย่านสามเสน เซนต์คาเบรียลแล้ว และโครงการ “พี่ส่งน้อง” ทำให้ผู้ปกครองไม่ต้องจอดรถนานหลังส่งบุตรหลานแล้วนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาโรงเรียนที่อยู่ในจุดที่มีปัญหาการจราจรเพื่อดำเนินการเพิ่ม ส่วนข้าราชการนั้นติดปัญหาค่อนข้างมาก พร้อมกันนี้จะมีการปรับย้ายตำแหน่งป้ายจอดรถประจำทาง ประมาณ 43 จุด เพื่อให้เหมาะสมต่อการระบายการจราจร