General News
Equity Market
Fix income market
Gold Corner
- IMF ลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้ลงจากที่ประมาณการไว้ 3.6% เป็น 3.5% ซึ่งไม่สูงพอที่จะช่วยลดอัตราว่างงานในกลุ่มประเทศพัฒนา และปัญหาต่อเนื่องของยูโรโซนก็เป็นปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่จะรุนแรงขึ้นหากไม่ผลักดันการปฏิรูปเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์ว่า GDP ยูโรโซนปีนี้จะติดลบ 0.2% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 0.2%
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมทั้งภาคการผลิตและบริการของยูโรโซนเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนที่ 48.2 โดยมีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในเยอรมนีที่ฟื้นตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ดัชนีที่ยังต่ำกว่า 50 แสดงว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมในภูมิภาคยังหดตัว
- อัตราว่างงานของสเปนในไตรมาส 4 ปีก่อนเพิ่มขึ้นสู่ 26.02% จาก 25.01% ในไตรมาส 3 ส่งผลให้มีผู้ว่างงานกว่า 6 ล้านคน หลังจากที่รัฐบาลใช้นโยบายรัดเข็มขัด
- ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ ณ 19 ม.ค.ของสหรัฐลดลงสู่ 330,000 ราย ต่ำสุดตั้งแต่เดือน ม.ค. 2551 สะท้อนว่านายจ้างโดยรวมยังเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
- HSBC รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนเดือน ม.ค. อยู่ที่ 51.9 สูงสุดในรอบ 24 เดือน บ่งชี้ว่า กิจกรรมภาคการผลิตมีการขยายตัว อันสืบเนื่องมาจากอุปสงค์ภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น
- ธ. แบงก์ ออฟ ไชน่า (BOC) คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของจีนในปีงบประมาณใหม่จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.2 ล้านล้าน ซึ่งเป็นผลจากการลงทุนของรัฐบาลโดยเฉพาะโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวลง
- ในปีก่อนญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 6.93 ล้านล้านเยน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากความต้องการในยุโรปลดลง มีข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะเตียวหยูกับจีน และมียอดนำเข้าเพิ่มขึ้นจากการนำเข้าพลังงานและการนำเข้าเพื่อฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิตั้งแต่ปี 2555
- เกาหลีเหนือจะทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธพิสัยไกลอีก โดยอาจพุ่งเป้าไปที่สหรัฐ หลังจากไม่พอใจที่โดนคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติคว่ำบาตร
- GDP ปีก่อนของเกาหลีใต้ขยายตัว 2% ต่ำสุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากภาคส่งออกกับการลงทุนภาคธุรกิจชะลอตัว แม้มีแรงกระตุ้นจากการใช้จ่ายภาครัฐและการขยายตัวของภาคก่อสร้าง ทั้งนี้ ธ.กลางเกาหลีใต้ได้ลดประมาณการ GDP ปีนี้เหลือ 2.8% จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
- ธ.กลางฟิลิปปินส์ คงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.5% โดยมีความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังสมดุล และคาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวต่อไปจากการบริโภคภายในประเทศและการลงทุนภาครัฐ
- อัตราเงินเฟ้อของเวียดนามเดือน ม.ค.เพิ่มขึ้น 1.25% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 2555 และ 7.07% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเพิ่มจากราคาเวชภัณฑ์ยาและค่าขนส่ง ประกอบกับเป็นช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ทางจันทรคติของชาวเวียดนามอีกด้วย
- S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือไทยที่ BBB+ ด้วยแนวโน้มมีเสถียรภาพ เพราะแม้เศรษฐกิจไทยจะมีพื้นฐานดี แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองและระดับหนี้สาธารณะยังเป็นปัจจัยเสี่ยง
- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ รายงานว่า ระดับหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน พ.ย. 2555 เป็น 4.88 ล้านล้านบาท หรือ 43.47% ของ GDP (เพิ่มขึ้น 4.8 หมื่นล้านบาทจากเดือน ต.ค. 2555)
- สศค. เปิดเผยว่า ยอดรายได้ของ ก.คลัง ในไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2556 (ต.ค.-ธ.ค.55) เพิ่มขึ้น 23.3% หรือเพิ่ม 4.99 แสนล้านบาทจากปีก่อน โดยเพิ่มจากภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิตรถยนต์เป็นหลัก ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ 7.86 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 60.5% ทั้งนี้ ได้ยืนยันว่า เงินคงคลังยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และรัฐบาลสามารถลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี2556
- สภาอุตฯ จะนำข้อสรุปมาตรการบรรเทาผลกระทบจากปัญหาเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ไปหารือร่วมกับ ธปท.ในต้นสัปดาห์หน้า โดยเห็นว่า ธปท.ควรดูแลเงินบาทไม่ให้แข็งค่าจนเกินไป ควรให้เคลื่อนไหวใกล้เคียงกับค่าเงินในภูมิภาค ทั้งนี้ ได้ระบุว่า ธปท.อาจใช้มาตรการเดิมที่เคยนำมาใช้แล้วอย่างการกันสำรองเงินทุนไหลเข้าร้อยละ 5 เพื่อชะลอการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ และมาตรการประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น
- ธปท. ยังไม่เห็นสัญญาณการโจมตีค่าเงินบาท และบาทยังเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มภูมิภาค โดยการแข็งค่าเร็วใน1-2 สัปดาห์นี้จะไม่กระทบส่งออก ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 9% ในปีนี้
- กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมต.คลัง ระบุว่า ในที่สุดค่าเงินบาทจะถูกกำหนดโดยตลาด (ผู้ซื้อ ผู้ขาย) แต่ ธปท.อาจช่วยบรรเทาผลกระทบมิให้เกิดขึ้นรวดเร็วภายใต้ขีดจำกัดที่มีอยู่
- IMF คาดว่า นักลงทุนเอกชนจะนำเงินเข้าลงทุนในตลาดเกิดใหม่มากขึ้นในปีนี้ โดยเงินที่ไหลเข้าละตินอเมริกาและเอเชียมีมากกว่าปี 2007 ถึง 30% เนื่องจากเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และอัตราดอกเบี้ยในประเทศพัฒนาแล้วยังต่ำอยู่มาก ซึ่งกระแสเงินที่ไหลบ่าเข้าตลาดเกิดใหม่อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อภาคการส่งออก และอาจเกิดการต่อสู้แทรกแซงให้ค่าเงินของประเทศตนอ่อนลงเพื่อช่วยการส่งออก อันนำไปสู่สงครามค่าเงินได้
Equity Market
- SET Index ปิดตลาดที่ 1,449.09 จุด เพิ่มขึ้น 9.89 จุด หรือ +0.69% ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ออกไปจนถึงกลางเดือน พ.ค. ประกอบกับกระแสเงินทุนไหลเข้าที่มีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ มีมูลค่าการซื้อขาย 48,538.08 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 59.48 ล้านบาท
Fix income market
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไม่เปลี่ยนแปลงในทุกช่วงอายุ สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท. อายุ 14 วัน มูลค่า 45,000 ล้านบาท
Gold Corner
- Morgan Stanley คาดว่า ทองคำจะขึ้นสู่ 1,830 ดอลลาร์/ออนซ์ ในไตรมาส 4 และยังอยู่ในขาขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า เนื่องจาก FED จะไม่ยกเลิก QE ภายใน 2 ปีนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวจริง และ ธ.กลางหลายแห่งทั่วโลกจะยังคงมีการซื้อทองคำเข้าเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ