เยอรมนีตรวจพบสารต้องห้ามในกาแฟลดความอ้วนจากไทยที่ส่งทางไปรษณีย์ 9 ครั้งช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค. 55 เตือนถ้าเจออีกคุมนำเข้าแน่ ส่วนอียูเผยซ้ำปี 55 พบสินค้าไทยไม่ได้มาตรฐาน 5 รายการ และยังเจอต้นหอมมีสารตกค้างอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รับแจ้งจากสำนักงานที่ปรึกษาด้านการเกษตร ประจำสหภาพยุโรป (อียู) ว่า เมื่อเร็วๆ นี้เยอรมนีได้ตรวจพบสาร Sibutramine ในกาแฟลดความอ้วนจากไทยที่ส่งทางพัสดุไปรษณีย์ถึง 9 ครั้งในช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2555 ซึ่งสารดังกล่าวเป็นสารต้องห้ามในอียู รวมถึงในสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เม็กซิโก จีน และไทย เพราะกาแฟลดความอ้วนที่มีสารดังกล่าวเป็นส่วนประกอบ นอกจากจะออกฤทธิ์ลดความอยากอาหารแล้ว ยังจะมีผลข้างเคียงที่รุนแรง ทำให้ร่างกายขาดน้ำ และมีความดันโลหิตสูง หากรับประทานในปริมาณมากอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันได้
ทั้งนี้ อียูเตือนว่า ากยังตรวจพบสารดังกล่าวในกาแฟจากไทยอีก มีความเป็นไปได้สูงที่จะออกมาตรการเข้มงวดต่อการนำเข้ากาแฟจากไทย รวมถึงเข้มงวดต่อพัสดุไปรษณีย์จากไทย ผู้ผลิตและผู้ส่งออกกาแฟ โดยเฉพาะกาแฟและเครื่องดื่มลดความอ้วนต้องระมัดระวังอย่าให้มีสาร Sibutramine ปนเปื้อนในเครื่องดื่ม เพราะนอกจากจะมีผลกระทบต่อสินค้าของตนเองแล้ว ยังมีผลกระทบต่อการส่งออกกาแฟของไทยในภาพรวมอีกด้วย
นอกจากนี้ยังได้รับรายงานจากสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมว่า คณะกรรมาธิการยุโรปด้านสุขภาพและผู้บริโภคได้เผยแพร่ผลการตรวจสินค้าที่ไม่ใช่อาหารที่ไม่ได้มาตรฐานของอียู ภายใต้ระบบเตือนภัยสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร (RAPEX) ซึ่งตลอดปี 2555 สินค้าไทยที่ถูกแจ้งเตือนมี 5 รายการ ได้แก่ เสื้อผ้าสำหรับเด็กอ่อน 3 รายการ รองเท้าสำหรับเด็ก และเด็กอ่อน 2 รายการ ซึ่งตรวจพบในประเทศสเปน โปแลนด์ และบัลแกเรีย โดยข้อบกพร่องที่ไม่ได้มาตรฐานคือ มีชิ้นส่วนขนาดเล็กที่หลุดได้ง่ายอาจทำให้ติดคอหรือสำลักได้ และสินค้ามีสารเคมีเกินมาตรฐาน
ขณะเดียวกัน สำนักงาน ณ กรุงบรัสเซลส์ยังรายงานอีกว่า National Food Agency ของสวีเดน ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมและตรวจสอบมาตรฐานอาหารที่ผลิต หรือจำหน่ายในสวีเดนได้มีหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม และบริษัทนำเข้าและจำหน่ายสินค้าอาหารและวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารเอเชียแห่งหนึ่งในกรุงสตอกโฮล์ม ระบุว่า จากการสุ่มตรวจต้นหอมที่บริษัทดังกล่าวนำเข้าจากบริษัทแห่งหนึ่งของไทย พบว่า ต้นหอมที่นำเข้านั้นมีปริมาณสารตกค้างเกินกว่าที่อียูและสวีเดนกำหนด โดยมีปริมาณสาร prochloraz 0.23 มิลลิกรัม/กิโลกรัม จากที่กำหนดให้มีได้ไม่เกิน 0.05 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และสาร carbendazim 1.82 มิลลิกรัม/กิโลกรัม จากที่กำหนดให้มีได้ไม่เกิน 0.1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ซึ่งล่าสุดสวีเดนได้สั่งห้ามจำหน่ายต้นหอมล็อตดังกล่าวที่มาจากบริษัทไทย และให้ผู้จำหน่ายที่มีต้นหอมจากบริษัทดังกล่าวต้องแจ้งให้สวีเดนทราบเพื่อตรวจสอบก่อนทุกครั้ง จนกว่าจะมีการพิจารณาทบทวนคำสั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รับแจ้งจากสำนักงานที่ปรึกษาด้านการเกษตร ประจำสหภาพยุโรป (อียู) ว่า เมื่อเร็วๆ นี้เยอรมนีได้ตรวจพบสาร Sibutramine ในกาแฟลดความอ้วนจากไทยที่ส่งทางพัสดุไปรษณีย์ถึง 9 ครั้งในช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2555 ซึ่งสารดังกล่าวเป็นสารต้องห้ามในอียู รวมถึงในสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เม็กซิโก จีน และไทย เพราะกาแฟลดความอ้วนที่มีสารดังกล่าวเป็นส่วนประกอบ นอกจากจะออกฤทธิ์ลดความอยากอาหารแล้ว ยังจะมีผลข้างเคียงที่รุนแรง ทำให้ร่างกายขาดน้ำ และมีความดันโลหิตสูง หากรับประทานในปริมาณมากอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันได้
ทั้งนี้ อียูเตือนว่า ากยังตรวจพบสารดังกล่าวในกาแฟจากไทยอีก มีความเป็นไปได้สูงที่จะออกมาตรการเข้มงวดต่อการนำเข้ากาแฟจากไทย รวมถึงเข้มงวดต่อพัสดุไปรษณีย์จากไทย ผู้ผลิตและผู้ส่งออกกาแฟ โดยเฉพาะกาแฟและเครื่องดื่มลดความอ้วนต้องระมัดระวังอย่าให้มีสาร Sibutramine ปนเปื้อนในเครื่องดื่ม เพราะนอกจากจะมีผลกระทบต่อสินค้าของตนเองแล้ว ยังมีผลกระทบต่อการส่งออกกาแฟของไทยในภาพรวมอีกด้วย
นอกจากนี้ยังได้รับรายงานจากสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมว่า คณะกรรมาธิการยุโรปด้านสุขภาพและผู้บริโภคได้เผยแพร่ผลการตรวจสินค้าที่ไม่ใช่อาหารที่ไม่ได้มาตรฐานของอียู ภายใต้ระบบเตือนภัยสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร (RAPEX) ซึ่งตลอดปี 2555 สินค้าไทยที่ถูกแจ้งเตือนมี 5 รายการ ได้แก่ เสื้อผ้าสำหรับเด็กอ่อน 3 รายการ รองเท้าสำหรับเด็ก และเด็กอ่อน 2 รายการ ซึ่งตรวจพบในประเทศสเปน โปแลนด์ และบัลแกเรีย โดยข้อบกพร่องที่ไม่ได้มาตรฐานคือ มีชิ้นส่วนขนาดเล็กที่หลุดได้ง่ายอาจทำให้ติดคอหรือสำลักได้ และสินค้ามีสารเคมีเกินมาตรฐาน
ขณะเดียวกัน สำนักงาน ณ กรุงบรัสเซลส์ยังรายงานอีกว่า National Food Agency ของสวีเดน ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมและตรวจสอบมาตรฐานอาหารที่ผลิต หรือจำหน่ายในสวีเดนได้มีหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม และบริษัทนำเข้าและจำหน่ายสินค้าอาหารและวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารเอเชียแห่งหนึ่งในกรุงสตอกโฮล์ม ระบุว่า จากการสุ่มตรวจต้นหอมที่บริษัทดังกล่าวนำเข้าจากบริษัทแห่งหนึ่งของไทย พบว่า ต้นหอมที่นำเข้านั้นมีปริมาณสารตกค้างเกินกว่าที่อียูและสวีเดนกำหนด โดยมีปริมาณสาร prochloraz 0.23 มิลลิกรัม/กิโลกรัม จากที่กำหนดให้มีได้ไม่เกิน 0.05 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และสาร carbendazim 1.82 มิลลิกรัม/กิโลกรัม จากที่กำหนดให้มีได้ไม่เกิน 0.1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ซึ่งล่าสุดสวีเดนได้สั่งห้ามจำหน่ายต้นหอมล็อตดังกล่าวที่มาจากบริษัทไทย และให้ผู้จำหน่ายที่มีต้นหอมจากบริษัทดังกล่าวต้องแจ้งให้สวีเดนทราบเพื่อตรวจสอบก่อนทุกครั้ง จนกว่าจะมีการพิจารณาทบทวนคำสั่ง