ไม่ว่าในตอนนี้คุณจะอยู่ในสถานภาพอย่างไร เพิ่งเริ่มทำงาน หรือทำงานมาได้สัก 4-5 ปี จนไต่เต้ามาเป็นผู้บริหารระดับกลาง ระดับสูงในภาครัฐหรือเอกชน หรือคุณอาจจะเป็นเจ้าของกิจการตั้งแต่ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ระดับประเทศ
เพื่อให้คุณเห็น อีกมิติหนึ่งที่ผมมั่นใจว่าทั้งตัวคุณเและบรรดาพรรคพวกเพื่อนฝูงของคุณเองก็ “ไม่รู้” ผมขอท้าที่จะ“เปลือย” ตัวตนและทัศนคติของคุณเกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆ แต่รับรองไม่โป๊ถึงขนาดต้องติด เรท ฉ. อย่างแน่นอน
ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม คำตอบจากคำถามทั้ง 10 ข้อต่อไปนี้ ผมเคยลองตอบกับตัวเองมาแล้ว ในครั้งแรกผลอาจจะออกมาในแบบหนึ่ง แต่หลังจากที่ชีวิตผมเริ่มมีปัญหาทางการเงิน และผมได้ตัดสินใจ “ปฏิบัติการพลิกชีวิต” โดยใช้เวลาอยู่หลายปี มาถึงวันนี้ คำตอบที่ได้จากคำถามเดิมกลับเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
อย่าลืมนะครับ ต้องตอบคำถามอย่างรวดเร็ว โดยใช้สัญชาตญาณของคุณเอง ด้วยประโยคธรรมดาในใจว่า “ฉันเต็มใจคุยเรื่องนี้” หรือ “ฉันไม่เต็มใจจะคุยเรื่องนี้”
เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องสมมุตินะครับ
ถ้าคุณ “อยากคุย” อาจจะเพราะ “รู้สึกสนุก” หรือกระตือรือล้นที่จะได้แลกเปลี่ยนหรือมีความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ หรือ ชอบคุยเพราะรู้สึกว่า ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบังเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ
อย่าลืมนะครับว่าต้อง “ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง” ไม่ใช่เลือกที่จะตอบแบบนี้เพราะไอ้เจ้าเสียงเล็กมากระซิบให้ตอบแบบนี้ เพราะคิดว่ามันจะ “ดูดี” หรือ มีคำตอบมาตรฐานในใจที่เตรียมเอาไว้แล้ว
ตรงกันข้าม “ไม่อยากคุย” ก็เพราะรู้สึก “ไม่อยากจะถูกต้อนให้จนมุมเพราะเรื่องนี้” หรือ “ไม่อยากจะคุยเรื่องนี้ เพราะทำให้เครียดเกินไป” ซึ่งสามารถจะรู้สึกได้ถึงความฝืนใจ อึกอัก หรือความกลัวคำตอบของคุณเป็นอย่างไรครับ?
เรื่องเงินๆทองๆ ก็เหมือนเรื่องอื่นๆนั่นแหละครับ ถ้าคุณเป็นคนหุ่นดี “ฟิตแอนด์เฟิร์ม” คุณก็คงมีความสุข และพร้อมที่จะคุยได้ทั้งวันกับทุกคนที่มาถามเกี่ยวกับการออกกำลังกายประจำวัน การควบคุมอาหารที่จะช่วยในการลดน้ำหนัก และเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆ
คนที่ผอมหุ่นดีจะเป็นพวกที่ชอบที่จะไปพบแพทย์ หรืออ่านบทความเกี่ยวกับสุขภาพมากกว่าคนที่หุ่นไม่ดี หรือเป็นพวก“ลุงพง” ทั้งหลาย
เช่นเดียวกับ คนที่มีลูกเก่งๆเรียนดี หรือคนที่มีชีวิตสมรสที่มีความสุข ก็มักจะภาคภูมิใจที่จะเม้าท์ หรือ โม้ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัว
ไม่ต่างอะไรกับ คนที่มีสุขภาพการเงินที่ดี ก็มักชอบคุยเกี่ยวกับการเรื่องเงินๆทองๆ สนใจและกระตือรือล้นที่จะไขว่คว้าหาความรู้เกี่ยวกับการจัดการการเงินของตัวเอง
ในขณะเดียวกัน ถ้าลึกๆแล้วคุณไม่พอใจสถานภาพทางการเงินของคุณ แน่นอน เวลาที่มีคุณมาถามจี้ใจดำในเรื่องที่คุณไม่ชอบ คุณก็จะรู้สึกเหนื่อยหน่ายและ ไม่ค่อยอยากจะคุยเรื่องนี้สักเท่าไรนัก
ดูคะแนนรวมว่าเป็นอย่างไร ถ้าคำตอบส่วนใหญ่ ยังคงออกมาในลักษณะไม่ชอบคุย และพร้อมที่จะลุกหนี ก็แสดงว่า ปฎิบัติการพลิกชีวิต เพื่อการเปลี่ยนแปลงเหมาะสำหรับคุณ!
เพื่อให้คุณเห็น อีกมิติหนึ่งที่ผมมั่นใจว่าทั้งตัวคุณเและบรรดาพรรคพวกเพื่อนฝูงของคุณเองก็ “ไม่รู้” ผมขอท้าที่จะ“เปลือย” ตัวตนและทัศนคติของคุณเกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆ แต่รับรองไม่โป๊ถึงขนาดต้องติด เรท ฉ. อย่างแน่นอน
ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม คำตอบจากคำถามทั้ง 10 ข้อต่อไปนี้ ผมเคยลองตอบกับตัวเองมาแล้ว ในครั้งแรกผลอาจจะออกมาในแบบหนึ่ง แต่หลังจากที่ชีวิตผมเริ่มมีปัญหาทางการเงิน และผมได้ตัดสินใจ “ปฏิบัติการพลิกชีวิต” โดยใช้เวลาอยู่หลายปี มาถึงวันนี้ คำตอบที่ได้จากคำถามเดิมกลับเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
อย่าลืมนะครับ ต้องตอบคำถามอย่างรวดเร็ว โดยใช้สัญชาตญาณของคุณเอง ด้วยประโยคธรรมดาในใจว่า “ฉันเต็มใจคุยเรื่องนี้” หรือ “ฉันไม่เต็มใจจะคุยเรื่องนี้”
- เช้าวันนี้ระหว่างขับรถไปทำงาน สามี/ภรรยา ของคุณเอ่ยปากว่า หลังจากกลับจากที่ทำงานวันนี้ อยากจะชวนคุยเกี่ยวกับเรื่องงบการเงินของเดือนนี้
- เมื่อมาถึงที่ทำงาน คุณได้รับโทรศัพท์จาก สรรพากรเขตพื้นที่ แจ้งว่าอยากให้คุณไปพบเกี่ยวกับการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี
- ระหว่างทานอาหารกลางวัน คุณลูกบังเกิดเกล้าวัยทีนเอจของคุณ โทรศัพท์ มาอ้อนขอให้คุณซื้อ I Phone 4 G เครื่องใหม่ให้เป็นของขวัญวันเกิด
- คุณกำลังมีแผนที่จะ “รีไฟแนนซ์” บ้าน เพื่อให้ดอกเบี้ยต่ำกว่าเดิม แต่เมื่อโทรศัพท์ไปยังธนาคารฯที่คุณใช้บริการเป็นประจำเพื่อสอบถาม กลับโดนคำถามแรกจากเจ้าหน้าที่สินเชื่อว่า “สถานะทางการเงินของคุณเป็นอย่างไรบ้าง”
- หลังจากคุยกับเจ้าหน้าที่สินเชื่อ เขาถามต่อว่า “คุณยินดีที่จะให้ตัดเงินผ่อนบ้านจากบัญชีธนาคารฯแบบอัตโนมัติทุกเดือนไหม”
- เย็นนี้คุณมีนัดสังสรรค์กับเพื่อนเก่า ในระหว่างงานมีเพื่อนคนหนึ่ง ที่เป็นผู้บริหารระดับสูงในแวดวงการเงินเอ่ยปากถามคุณว่า “ภาวะการเงินของคุณเป็นอย่างไรบ้าง”
- ในระหว่างงานปาร์ตี้เพื่อนเก่า เพื่อนนักการเงินคนเดิม ยังคงซักไซร้คุณไม่เลิกว่า “คุณลงทุนในอะไรอยู่บ้าง”
- ก่อนจะกลับ มีเพื่อนอีกคน ที่แอบได้ยินที่คุณสองคนคุยกัน เลียบๆเคียงๆมาถามว่า “ปีนี้สนใจจะร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสักกองไหม”
- หลังจากกลับมาถึงบ้าน สามี/ภรรยาของคุณ เอ่ยปากถามคุณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายบัตรเครดิตของคุณเมื่อเดือนที่ผ่านมา
- สามี/ภรรยา ของคุณจบการสนทนาก่อนนอนด้วยประโยคชวนคิดว่า “เธอเคยคิดจะจ่ายหนี้ทั้งหมดไหม”
เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องสมมุตินะครับ
ถ้าคุณ “อยากคุย” อาจจะเพราะ “รู้สึกสนุก” หรือกระตือรือล้นที่จะได้แลกเปลี่ยนหรือมีความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ หรือ ชอบคุยเพราะรู้สึกว่า ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบังเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ
อย่าลืมนะครับว่าต้อง “ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง” ไม่ใช่เลือกที่จะตอบแบบนี้เพราะไอ้เจ้าเสียงเล็กมากระซิบให้ตอบแบบนี้ เพราะคิดว่ามันจะ “ดูดี” หรือ มีคำตอบมาตรฐานในใจที่เตรียมเอาไว้แล้ว
ตรงกันข้าม “ไม่อยากคุย” ก็เพราะรู้สึก “ไม่อยากจะถูกต้อนให้จนมุมเพราะเรื่องนี้” หรือ “ไม่อยากจะคุยเรื่องนี้ เพราะทำให้เครียดเกินไป” ซึ่งสามารถจะรู้สึกได้ถึงความฝืนใจ อึกอัก หรือความกลัวคำตอบของคุณเป็นอย่างไรครับ?
เรื่องเงินๆทองๆ ก็เหมือนเรื่องอื่นๆนั่นแหละครับ ถ้าคุณเป็นคนหุ่นดี “ฟิตแอนด์เฟิร์ม” คุณก็คงมีความสุข และพร้อมที่จะคุยได้ทั้งวันกับทุกคนที่มาถามเกี่ยวกับการออกกำลังกายประจำวัน การควบคุมอาหารที่จะช่วยในการลดน้ำหนัก และเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆ
คนที่ผอมหุ่นดีจะเป็นพวกที่ชอบที่จะไปพบแพทย์ หรืออ่านบทความเกี่ยวกับสุขภาพมากกว่าคนที่หุ่นไม่ดี หรือเป็นพวก“ลุงพง” ทั้งหลาย
เช่นเดียวกับ คนที่มีลูกเก่งๆเรียนดี หรือคนที่มีชีวิตสมรสที่มีความสุข ก็มักจะภาคภูมิใจที่จะเม้าท์ หรือ โม้ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัว
ไม่ต่างอะไรกับ คนที่มีสุขภาพการเงินที่ดี ก็มักชอบคุยเกี่ยวกับการเรื่องเงินๆทองๆ สนใจและกระตือรือล้นที่จะไขว่คว้าหาความรู้เกี่ยวกับการจัดการการเงินของตัวเอง
ในขณะเดียวกัน ถ้าลึกๆแล้วคุณไม่พอใจสถานภาพทางการเงินของคุณ แน่นอน เวลาที่มีคุณมาถามจี้ใจดำในเรื่องที่คุณไม่ชอบ คุณก็จะรู้สึกเหนื่อยหน่ายและ ไม่ค่อยอยากจะคุยเรื่องนี้สักเท่าไรนัก
ดูคะแนนรวมว่าเป็นอย่างไร ถ้าคำตอบส่วนใหญ่ ยังคงออกมาในลักษณะไม่ชอบคุย และพร้อมที่จะลุกหนี ก็แสดงว่า ปฎิบัติการพลิกชีวิต เพื่อการเปลี่ยนแปลงเหมาะสำหรับคุณ!