ฉลองส่งท้ายปี กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก-มือถือ-แกดเจ็ต เติบโต100% เหตุราคาเบามือ ผู้บริโภคหันซื้อเป็นของขวัญปีใหม่ ส่งภาพรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าปีนี้โต 8%
นางสาวสอางทิพย์ อมรฉัตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสสี่ของทุกปีจะเป็นหน้าขายของกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นเดียวกับอีกหลายกลุ่มธุรกิจอื่นๆ โดยไตรมาสสี่ปี 2555 ที่ผ่านมามองว่าน่าจะมียอดขายสูงจากช่วงเวลาปกติไม่ต่ำกว่า 50% โดยกลุ่มสินค้าที่คาดว่าจะได้รับความสนใจมากสุด คือ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก และกลุ่มไอที โดยเฉพาะมือถือ แท็บเล็ต รวมถึงแกดเจ็ตอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 100%
“กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาพบว่าจะมียอดขายช่วงส่งท้ายปีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะมีราคาที่ถูก ผู้บริโภคหันมาซื้อเป็นของขวัญของฝากในช่วงปีใหม่กันมากขึ้น เห็นได้จากแบรนด์ มามารุ ของเพาเวอร์บายที่มียอดขายเติบโตต่อเนื่อง ส่วนสินค้าไอทีที่เติบโตสูงขึ้นเช่นกันนั้น มองว่าส่วนสำคัญมาจาก 3G ที่ทำให้ผู้บริโภคต้องการเข้าถึงเทคโนโลยีให้ได้มากขึ้น บวกกับสินค้ามีราคาที่ถูกลงและมีหลากหลายให้เลือก จึงนิยมซื้อหาเพื่อเป็นของขวัญให้แก่กัน ซึ่งยอดขายดังกล่าวน่าจะโตต่อเนื่องไปจนถึงเดือน ก.พ.ด้วย”
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจากข้อมูลของทางเจเอฟเคคาดการณ์ไว้ว่า เมื่อสิ้นปี 2555 จะมีอัตราการเติบโตที่ 8% โดยกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด ขณะที่ภาพรวมการขายนั้นครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรก ส่วนของยอดขายเพาเวอร์บายนั้นมีสัดส่วนการขายเป็นไปตามทิศทางของตลาดเช่นเดียวกัน โดยกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมีอัตราการเติบโตสูงสุด กล่าวคือ เครื่องปรับอากาศเติบโต 50% ตู้เย็น35% และเครื่องซักผ้าโต 30% รองลงมาคือกลุ่มเอวี และไอที หรือเมื่อปี 2555 เพาเวอร์บายมียอดขายรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท เติบโต 20%
จากเทรนด์ดังกล่าวสอดคล้องกับการวิเคราะห์เทรนด์ผู้บริโภคในปี 2556 ของทางแมคแคน เวิลด์กรุ๊ป ประเทศไทย ด้วยเช่นกัน โดยนางสาววฤตดา วรอาคม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านนวัตกรรม (ซีไอโอ) ได้กล่าวไว้ว่า จากการวิเคราะห์เทรนด์ผู้บริโภคในปี 2556 พบว่า 3จี ที่จะส่งผลให้เกิดการใช้งานดีไวซ์ผ่านอินเทอร์เน็ตมีสูงขึ้น อันนำมาซึ่งการแข่งขันของตลาดดีไวซ์และมือถือจะสูงขึ้นตามไปด้วย
จากปัจจุบันที่พบว่ามีคนใช้สมาร์ทโฟนที่ 27% ของจำนวนประชากร และใช้แท็บเล็ต 8% ของจำนวนประชากร ซึ่งส่วนสำคัญของการตลาดในปี 2556 จะมุ่งเน้นไปที่การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาผสมผสานกับความปรารถนาของผู้บริโภค โดยการมุ่งเน้นไปที่กลวิธีที่จะสร้างความน่าภาคภูมิใจในแบรนด์ การสร้างประสบการณ์ที่สัมผัสได้
และการใส่ความมีชีวิตจิตใจลงไปในแบรนด์เพื่อให้ผู้คนรู้สึกเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
นางสาวสอางทิพย์ อมรฉัตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสสี่ของทุกปีจะเป็นหน้าขายของกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นเดียวกับอีกหลายกลุ่มธุรกิจอื่นๆ โดยไตรมาสสี่ปี 2555 ที่ผ่านมามองว่าน่าจะมียอดขายสูงจากช่วงเวลาปกติไม่ต่ำกว่า 50% โดยกลุ่มสินค้าที่คาดว่าจะได้รับความสนใจมากสุด คือ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก และกลุ่มไอที โดยเฉพาะมือถือ แท็บเล็ต รวมถึงแกดเจ็ตอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 100%
“กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาพบว่าจะมียอดขายช่วงส่งท้ายปีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะมีราคาที่ถูก ผู้บริโภคหันมาซื้อเป็นของขวัญของฝากในช่วงปีใหม่กันมากขึ้น เห็นได้จากแบรนด์ มามารุ ของเพาเวอร์บายที่มียอดขายเติบโตต่อเนื่อง ส่วนสินค้าไอทีที่เติบโตสูงขึ้นเช่นกันนั้น มองว่าส่วนสำคัญมาจาก 3G ที่ทำให้ผู้บริโภคต้องการเข้าถึงเทคโนโลยีให้ได้มากขึ้น บวกกับสินค้ามีราคาที่ถูกลงและมีหลากหลายให้เลือก จึงนิยมซื้อหาเพื่อเป็นของขวัญให้แก่กัน ซึ่งยอดขายดังกล่าวน่าจะโตต่อเนื่องไปจนถึงเดือน ก.พ.ด้วย”
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจากข้อมูลของทางเจเอฟเคคาดการณ์ไว้ว่า เมื่อสิ้นปี 2555 จะมีอัตราการเติบโตที่ 8% โดยกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด ขณะที่ภาพรวมการขายนั้นครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรก ส่วนของยอดขายเพาเวอร์บายนั้นมีสัดส่วนการขายเป็นไปตามทิศทางของตลาดเช่นเดียวกัน โดยกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมีอัตราการเติบโตสูงสุด กล่าวคือ เครื่องปรับอากาศเติบโต 50% ตู้เย็น35% และเครื่องซักผ้าโต 30% รองลงมาคือกลุ่มเอวี และไอที หรือเมื่อปี 2555 เพาเวอร์บายมียอดขายรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท เติบโต 20%
จากเทรนด์ดังกล่าวสอดคล้องกับการวิเคราะห์เทรนด์ผู้บริโภคในปี 2556 ของทางแมคแคน เวิลด์กรุ๊ป ประเทศไทย ด้วยเช่นกัน โดยนางสาววฤตดา วรอาคม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านนวัตกรรม (ซีไอโอ) ได้กล่าวไว้ว่า จากการวิเคราะห์เทรนด์ผู้บริโภคในปี 2556 พบว่า 3จี ที่จะส่งผลให้เกิดการใช้งานดีไวซ์ผ่านอินเทอร์เน็ตมีสูงขึ้น อันนำมาซึ่งการแข่งขันของตลาดดีไวซ์และมือถือจะสูงขึ้นตามไปด้วย
จากปัจจุบันที่พบว่ามีคนใช้สมาร์ทโฟนที่ 27% ของจำนวนประชากร และใช้แท็บเล็ต 8% ของจำนวนประชากร ซึ่งส่วนสำคัญของการตลาดในปี 2556 จะมุ่งเน้นไปที่การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาผสมผสานกับความปรารถนาของผู้บริโภค โดยการมุ่งเน้นไปที่กลวิธีที่จะสร้างความน่าภาคภูมิใจในแบรนด์ การสร้างประสบการณ์ที่สัมผัสได้
และการใส่ความมีชีวิตจิตใจลงไปในแบรนด์เพื่อให้ผู้คนรู้สึกเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
