ศูนย์ศิลปาชีพระหว่างประเทศตั้งเป้าดันส่งออกสินค้ากลุ่มหัตถกรรมปี 56 โต 4% มูลค่า 898 ล้านเหรียญสหรัฐ
นางพิมพาพรรณ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้ตั้งเป้าการส่งออกสินค้ากลุ่มหัตถกรรมในปี 2556 มูลค่า 898 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4% เทียบกับการส่งออกปี 2555 ที่คาดว่าจะไม่ขยายตัวมากนัก โดยมีมูลค่า 862 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากสินค้ากลุ่มหัตถกรรมได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 ทำให้วัตถุดิบที่ใช้ผลิตสินค้าเกิดความเสียหาย และผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในภูมิภาคยุโรปส่งผลให้การส่งออกไปตลาดยุโรปหดตัวลดลง
โดยแผนการผลักดันการส่งออกจะดำเนินยุทธศาสตร์ 4 แนวทาง ได้แก่ เพิ่มองค์ความรู้ในงานศิลปหัตถกรรม โดยมีโครงการจัดทำฐานข้อมูลการตลาดงานศิลปหัตถกรรม โครงการจัดการองค์ความรู้งานศิลปหัตถกรรม โครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้งานศิลปหัตถกรรมผ่านข้อมูลในหอนิทรรศการ รวมทั้งเพิ่มสมรรถนะและพัฒนาธุรกิจงานศิลปหัตถกรรม เพื่อให้ช่างศิลปหัตถกรรมและผู้ประกอบการได้เพิ่มศักยภาพและพัฒนาทางธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ขณะเดียวกัน จะเร่งผลักดันการพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าในเชิงนวัตศิลป์แต่ยังคงไว้ในคุณค่าเดิม และเพิ่มเสน่ห์ที่สะท้อนวิถีชีวิตคนไทย และการขยายตลาดงานศิลปหัตถกรรมเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพและศิลปหัตถกรรมได้รับการส่งเสริม สนับสนุนให้เข้าสู่ตลาดในกลุ่มลูกค้าเฉพาะ และผู้ประกอบการที่มีเครือข่ายการค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการแสดงสินค้าและส่งเสริมการค้าร่วมกับหน่วยงานอื่น โครงการแสดงสินค้านานาชาติในประเทศ โครงการเปิดตลาดการค้าในต่างประเทศ โครงการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ เป็นตัน
นอกจากนี้จะเน้นตลาดภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยปีละ 20 ล้านคน เพื่อขยายตลาดให้เกษตรกรและกลุ่มชุมชนที่ใช้งานฝีมือเป็นหลักในการสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น
นางพิมพาพรรณ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้ตั้งเป้าการส่งออกสินค้ากลุ่มหัตถกรรมในปี 2556 มูลค่า 898 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4% เทียบกับการส่งออกปี 2555 ที่คาดว่าจะไม่ขยายตัวมากนัก โดยมีมูลค่า 862 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากสินค้ากลุ่มหัตถกรรมได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 ทำให้วัตถุดิบที่ใช้ผลิตสินค้าเกิดความเสียหาย และผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในภูมิภาคยุโรปส่งผลให้การส่งออกไปตลาดยุโรปหดตัวลดลง
โดยแผนการผลักดันการส่งออกจะดำเนินยุทธศาสตร์ 4 แนวทาง ได้แก่ เพิ่มองค์ความรู้ในงานศิลปหัตถกรรม โดยมีโครงการจัดทำฐานข้อมูลการตลาดงานศิลปหัตถกรรม โครงการจัดการองค์ความรู้งานศิลปหัตถกรรม โครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้งานศิลปหัตถกรรมผ่านข้อมูลในหอนิทรรศการ รวมทั้งเพิ่มสมรรถนะและพัฒนาธุรกิจงานศิลปหัตถกรรม เพื่อให้ช่างศิลปหัตถกรรมและผู้ประกอบการได้เพิ่มศักยภาพและพัฒนาทางธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ขณะเดียวกัน จะเร่งผลักดันการพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าในเชิงนวัตศิลป์แต่ยังคงไว้ในคุณค่าเดิม และเพิ่มเสน่ห์ที่สะท้อนวิถีชีวิตคนไทย และการขยายตลาดงานศิลปหัตถกรรมเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพและศิลปหัตถกรรมได้รับการส่งเสริม สนับสนุนให้เข้าสู่ตลาดในกลุ่มลูกค้าเฉพาะ และผู้ประกอบการที่มีเครือข่ายการค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการแสดงสินค้าและส่งเสริมการค้าร่วมกับหน่วยงานอื่น โครงการแสดงสินค้านานาชาติในประเทศ โครงการเปิดตลาดการค้าในต่างประเทศ โครงการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ เป็นตัน
นอกจากนี้จะเน้นตลาดภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยปีละ 20 ล้านคน เพื่อขยายตลาดให้เกษตรกรและกลุ่มชุมชนที่ใช้งานฝีมือเป็นหลักในการสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น