xs
xsm
sm
md
lg

เท็ดดี้เฮ้าส์เบรกตลาดยุโรป ขึ้นราคา 40% รับค่าแรง 300 บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปิตุภูมิ หิรัณยพิชญ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เท็ดดี้ เฮ้าส์ จำกัด
เท็ดดี้เฮ้าส์สะดุดยุโรป ทำยอดขายครึ่งปีแรกต่ำกว่าเป้า แต่มั่นใจทั้งปียังเติบโตที่ 15% แตะ 120 ล้านบาท ล่าสุดบุกหนักอาเซียนเต็มสูบ เตรียมร่วมทุนที่อินโดนีเซียขยายสาขาอีก 5 แห่ง หวังสร้างแบรนด์เต็มกำลังสู่บัลลังก์เอเชียใน 3 ปี

นายปิตุภูมิ หิรัณยพิชญ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เท็ดดี้ เฮ้าส์ จำกัด ผู้ผลิตตุ๊กตาหมีสัญชาติไทย ภายใต้แบรนด์ “TEDDY HOUSE” เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของเท็ดดี้ เฮ้าส์ในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงสูงมาก โดยบริษัทตัดสินใจปรับเพิ่มราคาสินค้าขึ้นกว่า 30-40% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับค่าแรง 300 บาทที่จะปรับขึ้น และค่าเงินบาทที่อาจจะแข็งค่าขึ้นอีก ทำให้ลูกค้าชะลอการซื้อสินค้าลง

ประกอบกับสถานการณ์การลงทุนในยุโรปไม่ค่อยดีจึงได้ยุติการทำตลาดลง ส่งผลให้ภาพรวมยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกต่ำกว่าเป้าอย่างมาก แต่มาถึงเดือน ธ.ค.นี้มั่นใจว่ายอดขายทั้งปีจะยังคงโตได้ 20% หรือมีรายได้ที่ 120 ล้านบาทตามแผนที่วางไว้ แบ่งเป็นในประเทศ 60% และต่างประเทศ 40% 

“เดิมราคาสินค้าของเราเริ่มที่ 200-8,500 บาท แต่หลังปรับราคาแล้วจะอยู่ที่ 300-9,000 บาท จับกลุ่มลูกค้าอายุ 18-24 ปี มองว่าช่วงแรกลูกค้าอาจจะรู้สึกว่าราคาสูงไปบ้าง แต่พอสักระยะทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติ เช่น เวลานี้ยอดขายก็เริ่มกลับมาปกติแล้ว ทั้งนี้บริษัทยังคงใช้ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าอยู่ถึงแม้ว่าค่าแรงจะปรับสูงขึ้นก็ตาม แต่เชื่อว่าสินค้าที่ต้องผลิตแบบแฮนด์เมดแรงงานไทยมีคุณภาพเมื่อเทียบกับแรงงานในประเทศอื่นที่มีค่าแรงถูกกว่า ซึ่งปัจจุบันโรงงานของเราที่จังหวัดสมุทรปราการ มีแรงงานอยู่ราว 100 คน สามารถรองรับกำลังการผลิตสูงสุดได้ถึง 200 ล้านบาทต่อปี ผลิตตุ๊กตาหมีตั้งแต่ขนาด 5 นิ้วไปจนถึง 60 นิ้ว และกว่า 90% ผลิตสำหรับแบรนด์เท็ดดี้เฮ้าส์ อีก 10% เป็นโออีเอ็ม”

นายปิตุภูมิกล่าวต่อว่า ตลาดยุโรปขณะนี้ยังทำได้ยาก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะแบรนด์เท็ดดี้ เฮ้าส์ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ขณะที่การลงทุนจะเป็นลักษณะของคู่ค้าต้องการให้ผลิตให้แต่ขอใช้ตราสินค้าของเขาแทน ทำให้ยกเลิกทำตลาดในยุโรปลงไปก่อน

แต่ขณะเดียวกัน สำหรับตลาดในอาเซียนกลับพบว่ามีอัตราการเติบโตเป็นที่รู้จักมากขึ้น หรืออาจกล่าวได้ว่าปัจจุบันเท็ดดี้ เฮ้าส์อยู่ในอันดับ 2 ของตลาดตุ๊กตาหมีที่แต่งตัวได้ของอาเซียน โดยปัจจุบันมีจำหน่ายอยู่ใน 3 ประเทศแล้ว คือ อินโดนีเซีย 5 สาขา เวียดนาม 5 สาขา และอินเดีย 1 สาขา ทั้งนี้ มองว่าหากสามารถทำตลาดในเอเชียได้แล้ว ตลาดยุโรปก็จะกลับมาหาเราอีกครั้งเอง 

โดยเฉพาะอินโดนีเซียพบว่ามีอัตราการเติบโตของยอดขายสูงมาก ดังนั้นปีหน้าบริษัทพร้อมลงทุนกับคู่ค้าในอินโดนีเซียในลักษณะจอยต์เวนเจอร์เพื่อมุ่งขายแฟรนไชส์ร้านเท็ดดี้ เฮ้าส์ให้เพิ่มขึ้นอีก 5 สาขา จากปัจจุบันคู่ค้าดังกล่าวซื้อแฟรนไชส์เพื่อทำร้านเท็ดดี้ เฮ้าส์เองทั้งหมด

ส่วนในไทยเตรียมขยายเพิ่มอีก 4 สาขา รวมแล้วปีหน้าใช้งบลงทุนเปิดสาขาทั้งหมดราว 20 ล้านบาท เฉลี่ยสาขาละ 2 ล้านบาท จากปัจจุบันในไทยมี 27 สาขา และต่างประเทศ 15 สาขา

ส่วนประเทศต่อไปที่จะเข้าไปทำตลาดต่อ คือ มาเลเซีย และเกาหลี โดยเฉพาะเกาหลีนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะจอยต์เวนเจอร์กันเพื่อทำเท็ดดี้ เฮ้าส์ มิวเซียมในไทยด้วย ทั้งนี้ มั่นใจว่าภายใน 3 ปีจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำของตลาดตุ๊กตาที่เปลี่ยนเสื้อผ้าได้ในเอเชีย
กำลังโหลดความคิดเห็น