บอร์ด ร.ฟ.ท.เห็นชอบจัดซื้อเครื่องเอกซเรย์และเครื่องตรวจจับโลหะกว่า 90 ล.ติดตั้งสถานีรถไฟ 3 จว.ชายแดนใต้ทุกแห่ง เพื่อเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เป็นสถานีปิด 100% “ประภัสร์” เผย ร.ฟ.ท.ไม่ได้ตั้งงบเผื่ออาจต้องเสนอ ครม.ขอใช้งบกลางเป็นกรณีพิเศษ
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่มีนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบลงทุนจัดซื้อเครื่องตรวจร่างกายและตรวจจับโลหะ เช่น เครื่องเอกซเรย์ขนาดใหญ่และขนาดกลาง เครื่องตรวจจับโลหะแบบ Walk Through และเครื่องตรวจจับโลหะชนิดมือถือ (Hand-held) วงเงินประมาณ 95 ล้านบาท เพื่อนำไปติดตั้งที่สถานีรถไฟ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยการเดินรถไฟ
ทั้งนี้ ตามแผนจะติดตั้งเครื่องเอกซเรย์ขนาดใหญ่ในสถานีหลัก เช่น หาดใหญ่ ส่วนแบบ Walk Through จะติดตั้งทุกสถานีรวม 17 แห่ง ซึ่งปัจจุบันสถานีรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดขายแดนใต้จะเป็นสถานีปิดแล้ว โดยมีการจำกัดพื้นที่เข้า-ออกสถานี แต่ยังขาดอุปกรณ์ เครื่องมือ ที่จะเข้ามาช่วยตรวจสอบทั้งบุคคลและสัมภาระ จึงทำได้เพียงการสุ่มตรวจบุคคลและสัมภาระท่านั้น เมื่อมีเครื่องมือเข้ามาช่วยจะทำให้การตรวจสอบละเอียดมากขึ้น และเป็นสถานีปิดเต็มรูปแบบ
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะใช้งบประมาณประจำปีของ ร.ฟ.ท.มาเจียดจ่ายจัดซื้อได้หรือไม่ เนื่องจากไมได้มีการตั้งงบไว้ล่วงหน้า หากไม่สามารถดำเนินการได้จะเร่งเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอใช้งบกลางเพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งเชื่อว่าฝ่ายนโยบายจะเข้าใจปัญหาและความจำเป็นในการเร่งจัดหาโดยเร็วที่สุด
ด้านนายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสิฐ หัวหน้าสำนักงานประจำการรถไฟศูนย์ภาคใต้ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า การมีเครื่องมือและอุปกรณ์เพิ่มเติมจะช่วยเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเดินรถไฟ 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้ ซึ่งหลักการจะต้องมึการติดตั้งเครื่องเอกซเรย์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ครบทั้ง 27 สถานี ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยของรางรถไฟนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจและประเมินมาตรการเพิ่มเติมนอกจากการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนในจุดล่อแหลมและจุดเสี่ยง
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่มีนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบลงทุนจัดซื้อเครื่องตรวจร่างกายและตรวจจับโลหะ เช่น เครื่องเอกซเรย์ขนาดใหญ่และขนาดกลาง เครื่องตรวจจับโลหะแบบ Walk Through และเครื่องตรวจจับโลหะชนิดมือถือ (Hand-held) วงเงินประมาณ 95 ล้านบาท เพื่อนำไปติดตั้งที่สถานีรถไฟ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยการเดินรถไฟ
ทั้งนี้ ตามแผนจะติดตั้งเครื่องเอกซเรย์ขนาดใหญ่ในสถานีหลัก เช่น หาดใหญ่ ส่วนแบบ Walk Through จะติดตั้งทุกสถานีรวม 17 แห่ง ซึ่งปัจจุบันสถานีรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดขายแดนใต้จะเป็นสถานีปิดแล้ว โดยมีการจำกัดพื้นที่เข้า-ออกสถานี แต่ยังขาดอุปกรณ์ เครื่องมือ ที่จะเข้ามาช่วยตรวจสอบทั้งบุคคลและสัมภาระ จึงทำได้เพียงการสุ่มตรวจบุคคลและสัมภาระท่านั้น เมื่อมีเครื่องมือเข้ามาช่วยจะทำให้การตรวจสอบละเอียดมากขึ้น และเป็นสถานีปิดเต็มรูปแบบ
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะใช้งบประมาณประจำปีของ ร.ฟ.ท.มาเจียดจ่ายจัดซื้อได้หรือไม่ เนื่องจากไมได้มีการตั้งงบไว้ล่วงหน้า หากไม่สามารถดำเนินการได้จะเร่งเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอใช้งบกลางเพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งเชื่อว่าฝ่ายนโยบายจะเข้าใจปัญหาและความจำเป็นในการเร่งจัดหาโดยเร็วที่สุด
ด้านนายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสิฐ หัวหน้าสำนักงานประจำการรถไฟศูนย์ภาคใต้ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า การมีเครื่องมือและอุปกรณ์เพิ่มเติมจะช่วยเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเดินรถไฟ 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้ ซึ่งหลักการจะต้องมึการติดตั้งเครื่องเอกซเรย์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ครบทั้ง 27 สถานี ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยของรางรถไฟนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจและประเมินมาตรการเพิ่มเติมนอกจากการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนในจุดล่อแหลมและจุดเสี่ยง
