ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่ศุลกากรสะเดา คุมเข้มการลักลอบนำเข้าบุหรี่ และเหล้าเถื่อน หลังไทยมีการปรับอัตราภาษีใหม่
วันนี้ (22 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ศุลกากรสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบและตรวจค้นการเข้าออกบริเวณด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าบุหรี่ และสุราหลบหนีภาษีศุลกากร จากประเทศมาเลเซียเข้ามายังฝั่งไทย ตามช่องทางด่านพรมแดนสะเดา และรอยตะเข็บชายแดนไทยมาเลเซีย โดยจะเฝ้าตรวจสังเกตรถยนต์ต้องสงสัยทั้งรถมาเลเซีย และรถไทยที่ผ่านเข้าออกด่านพรมแดนของทั้งสองประเทศบ่อยครั้ง และดำเนินการตรวจค้นอย่างละเอียด หลังจากที่รัฐบาลได้ปรับอัตราภาษีใหม่ของสุราและบุหรี่ ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ทำให้บุหรี่ทั้งในและต่างประเทศปรับเพิ่มขึ้นซองละ 6-8 บาท สุราต่างประเทศและบรั่นดี ขึ้นภาษีอีกลิตรละ 400 บาท เหล้าขาว เหล้าโรง ขึ้นภาษีอีกลิตรละ 120 บาท ยกเว้นไวน์ซึ่งเก็บภาษีเต็มเพดานไปก่อนหน้านี้ซึ่งมีผลทันทีตั้งแต่วันนี้
ทั้งนี้ ม.ล.สิทธิเดช ศุขสวัสดิ์ ณ อยุธยา นายด่านศุลกากรสะเดา เปิดเผยว่า ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมศุลกากร ให้ดำเนินการตรวจสอบการลักลอบนำเข้าบุหรี่และสุราอย่างละเอียด ทั้งกล้องซีซีทีวีที่ติดตั้งอยู่บริเวณด่าน และเครื่องเอกซเรย์ตรวจสอบกระเป๋า และสิ่งของต่างๆ ที่จะผ่านด่านพรมแดนสะเดาเข้ามายังฝั่งไทย เพราะคาดว่าหลังจากที่ไทยปรับอัตราภาษีใหม่ จะทำให้มีการลักลอบนำเข้าบุหรี่และเหล้าเลี่ยงภาษีมากขึ้น เนื่องจากมีราคาถูกกว่า และเป็นที่นิยมของผู้ซื้อโดยเฉพาะบุหรี่ซึ่งจำหน่ายเพียงซองละ 20 บาท
นอกจากนี้ ยังได้ประสานไปยังคณะทำงานระหว่างศุลกากรไทย และศุลกากรมาเลเซียร่วมกันปราบปราบบุหรี่และเหล้าเถื่อนเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซียสินค้าหนีภาษีที่มีการลักลอบนำเข้ามากที่สุด 5 อันดับ คือ น้ำมันเชื้อเพลิง สินค้าอุปโภคบริโภค บุหรี่ น้ำมันปาล์ม และรถยนต์ โดยสถิติการจับกุมสินค้าหนีภาษีของด่านศุลกากรสะเดาระหว่างเดือนตุลาคม-มิถุนายน ปีนี้มีมูลค่ารวม 89 ล้านบาท