ไทยพีบีเอสเตรียมทุ่มงบ 2,000 ล้าน ยื่นขอไลเซนส์ทั้งโครงข่าย ขอ 2 ช่องใน 3 ปี
นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงละแพร่ภาพสาธารณะแหงประเทศไทย (ส.ส.ท.) เปิดเผยว่า ไทยพีบีเอสเตรียมที่จะยื่นขอไลเซนส์ในการให้บริการทีวีดิจิตอล เนื่องจากมีความพร้อม ซึ่งปัจจุบันมีสถานีส่งออกอากาศหลัก 35 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยต้องการเป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบดิจิตอลภาคพื้นดิน (ทีวีดิจิตอล) ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสีย กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทั้งในส่วนของการเป็นผู้ให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงข่าย ซึ่งไทยพีบีเอสมีความพร้อมมากที่สุด
โดยขณะนี้ไทยพีบีเอส มีเงินสดสะสมอยู่ 2,000 ล้านบาท และมีเงินงบประมาณจากภาคีเหล้าและบุหรี่ปีละ2,000 ล้านบาท ซึ่งจะใช้งบประมาณในส่วนนี้ผลักดันการให้บริการทีวีสาธารณะให้เข้าถึงประชาชนมากยิ่งขึ้น โดยตามแผนงานเตรียมยื่นขอช่องใหม่ 2 ช่อง ช่องแรกจะเป็นช่องบริการสาธารณะ และภายใน 3 ปี จะมีอีก 1 ช่อง เป็นชองการศึกษาสำหรับเยาวชน รวมทั้งจะยื่นขอเป็นผู้ให้บริการคลื่นวิทยุอีก 1 คลื่น
ด้านนายนที ศุกลรัตน์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัน์ (กสท.) กล่าวว่า วันที่ 3 ธ.ค.นี้จะลงนามในสัญญาร่วมกับช่อง 5 ช่อง 9 และช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อทดลองออกอากาศโทรทัศน์ดิจิตอลภาคพื้นดิน แบบความคมชัดสูง หรือเอชดี เพื่อให้ประชาชนได้ทดลองสัมผัสจริงกับโทรทัศน์ระบบดิจิตอล เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยเริ่มออกอากาศในเดือน ม.ค.ปี 2556 สำหรับการให้ใบอนุญาตทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงข่ายทีวีดิจิตอล คาดว่าจะดำเนินการได้ในเดือน ม.ค.เช่นเดียวกัน จากแผนเดิมในเดือน ธ.ค.
อย่างไรก็ตาม ตามแผนงานการให้ใบอนุญาตโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในส่วนของช่องราการยังคงตามแผนเดิม คือราวเดือน มี.ค.จะให้ใบอนุญาตช่องโทรทัศน์บริการสาธารณะ, เดือน ส.ค.ช่องบริการธุรกิจและปลายปี 2566 จะให้ใบอนุญาตบริการชุมชน โดยหลักเกณฑ์ต่างๆ จะเริ่มเห็นความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และเริ่มให้ประชาชนได้สัมผัสจริงกับทีวีดิจิตอลที่จะเริ่มออกอากาศในปีหน้า ซึ่งสำนักงานจะทำเอ็มโอยูกับทีวีช่องต่างๆ และไทยพีบีเอส รวมทั้งการซับซิไดส์ในกล่องรับสัญญาณ เพื่อให้การกระจายการให้บริการทีวีดิจิตอลครอบคลุมได้ตามเป้าหมายที่ กสทช.กำหนดไว้
นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงละแพร่ภาพสาธารณะแหงประเทศไทย (ส.ส.ท.) เปิดเผยว่า ไทยพีบีเอสเตรียมที่จะยื่นขอไลเซนส์ในการให้บริการทีวีดิจิตอล เนื่องจากมีความพร้อม ซึ่งปัจจุบันมีสถานีส่งออกอากาศหลัก 35 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยต้องการเป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบดิจิตอลภาคพื้นดิน (ทีวีดิจิตอล) ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสีย กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทั้งในส่วนของการเป็นผู้ให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงข่าย ซึ่งไทยพีบีเอสมีความพร้อมมากที่สุด
โดยขณะนี้ไทยพีบีเอส มีเงินสดสะสมอยู่ 2,000 ล้านบาท และมีเงินงบประมาณจากภาคีเหล้าและบุหรี่ปีละ2,000 ล้านบาท ซึ่งจะใช้งบประมาณในส่วนนี้ผลักดันการให้บริการทีวีสาธารณะให้เข้าถึงประชาชนมากยิ่งขึ้น โดยตามแผนงานเตรียมยื่นขอช่องใหม่ 2 ช่อง ช่องแรกจะเป็นช่องบริการสาธารณะ และภายใน 3 ปี จะมีอีก 1 ช่อง เป็นชองการศึกษาสำหรับเยาวชน รวมทั้งจะยื่นขอเป็นผู้ให้บริการคลื่นวิทยุอีก 1 คลื่น
ด้านนายนที ศุกลรัตน์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัน์ (กสท.) กล่าวว่า วันที่ 3 ธ.ค.นี้จะลงนามในสัญญาร่วมกับช่อง 5 ช่อง 9 และช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อทดลองออกอากาศโทรทัศน์ดิจิตอลภาคพื้นดิน แบบความคมชัดสูง หรือเอชดี เพื่อให้ประชาชนได้ทดลองสัมผัสจริงกับโทรทัศน์ระบบดิจิตอล เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยเริ่มออกอากาศในเดือน ม.ค.ปี 2556 สำหรับการให้ใบอนุญาตทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงข่ายทีวีดิจิตอล คาดว่าจะดำเนินการได้ในเดือน ม.ค.เช่นเดียวกัน จากแผนเดิมในเดือน ธ.ค.
อย่างไรก็ตาม ตามแผนงานการให้ใบอนุญาตโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในส่วนของช่องราการยังคงตามแผนเดิม คือราวเดือน มี.ค.จะให้ใบอนุญาตช่องโทรทัศน์บริการสาธารณะ, เดือน ส.ค.ช่องบริการธุรกิจและปลายปี 2566 จะให้ใบอนุญาตบริการชุมชน โดยหลักเกณฑ์ต่างๆ จะเริ่มเห็นความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และเริ่มให้ประชาชนได้สัมผัสจริงกับทีวีดิจิตอลที่จะเริ่มออกอากาศในปีหน้า ซึ่งสำนักงานจะทำเอ็มโอยูกับทีวีช่องต่างๆ และไทยพีบีเอส รวมทั้งการซับซิไดส์ในกล่องรับสัญญาณ เพื่อให้การกระจายการให้บริการทีวีดิจิตอลครอบคลุมได้ตามเป้าหมายที่ กสทช.กำหนดไว้
