“อสมท” เดินหน้าผนึกพันธมิตรทุกด้าน ปูทางสู่การประมูลทีวีดิจิตอล ล่าสุดจีบเอ็มทีวีร่วมมือทางด้านคอนเทนต์ ล่าสุดเร่งปรับผังรายการเน้นผลิตเอง 51% มุ่งสร้างรายได้ผ่านการร่วมมือกับภาครัฐมากขึ้น
นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง อสมท กำลังปูทางสู่การเข้าสู่ทีวีดิจิตอลมากขึ้น โดยเปิดกว้างสำหรับพันธมิตรด้านโครงข่ายและคอนเทนต์เพื่อนำไปสู่การทำทีวีดิจิตอลในอนาคตต่อไป ล่าสุดได้จับมือกับทางเอ็มทีวี ซึ่งมีคอนเทนต์หลากหลาย อันจะช่วยในการผลิตรายการต่างๆ ในช่องทีวีดิจิตอลได้ ซึ่งอาจจะเป็นการทำช่องใหม่หรืออาจจะนำช่องที่บริหารอยู่มาทำเป็นช่องทีวีดิจิตอลก็มีความเป็นไปได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ทาง กสทช.เองล่าสุดได้มีการพูดคุยกับทาง อสมท โดยเสนอให้ อสมท เข้ามารับดูแลในส่วนของการบริหารจัดการทีวีดิจิตอลสาธารณะด้วย เพราะ อสมท มีความพร้อมด้านการอัปลิงก์สัญญาณอยู่แล้ว
ส่วนการบริหารดูแลช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ล่าสุดพร้อมปรับผังรายการใหม่เริ่มใช้ตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค. 2556 เป็นต้นไป โดยเน้นผลิตเอง 51% จาก 47% โดยสัดส่วนผังรายการแบ่งออกเป็น รายการข่าว 27% สาระความรู้ 8% สารบันเทิง 18% และรายการบันเทิง 47% พร้อมปรับราคาโฆษณาเพิ่มเฉลี่ยอีก 5% ซึ่งการปรับผังรายการ มีเป้าหมายเพื่อพัฒนารายการให้มีเรตติ้งสูงขึ้น และพัฒนาพื้นที่ขายในกลุ่มรายการประเภทข่าวและบันเทิง โดยมีรายการใหม่เข้ามาคิดเป็น 30% ของรายการทั้งหมด
นายเอนกกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม โมเดิร์นไนน์จะมุ่งเน้นสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการร่วมมือกับทางภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ โดยการจับมือกันในการร่วมสนับสนุนรายการมากขึ้น เช่น ออมสิน, การเคหะแห่งชาติ, ไปรษณีย์ไทย, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สสส., กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงวัฒนธรรม เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวต่อปีมีงบที่ใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่ประชาชนสูงมาก และเป็นงบที่ค่อนข้างเสถียร และการที่ อสมท ทำงานร่วมกับกลุ่มดังกล่าวไม่จำเป็นต้องมีการประมูล ง่ายต่อการทำงาน จึงมุ่งเน้นสร้างรายได้จากข่องทางนี้มากขึ้น คาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท
นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง อสมท กำลังปูทางสู่การเข้าสู่ทีวีดิจิตอลมากขึ้น โดยเปิดกว้างสำหรับพันธมิตรด้านโครงข่ายและคอนเทนต์เพื่อนำไปสู่การทำทีวีดิจิตอลในอนาคตต่อไป ล่าสุดได้จับมือกับทางเอ็มทีวี ซึ่งมีคอนเทนต์หลากหลาย อันจะช่วยในการผลิตรายการต่างๆ ในช่องทีวีดิจิตอลได้ ซึ่งอาจจะเป็นการทำช่องใหม่หรืออาจจะนำช่องที่บริหารอยู่มาทำเป็นช่องทีวีดิจิตอลก็มีความเป็นไปได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ทาง กสทช.เองล่าสุดได้มีการพูดคุยกับทาง อสมท โดยเสนอให้ อสมท เข้ามารับดูแลในส่วนของการบริหารจัดการทีวีดิจิตอลสาธารณะด้วย เพราะ อสมท มีความพร้อมด้านการอัปลิงก์สัญญาณอยู่แล้ว
ส่วนการบริหารดูแลช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ล่าสุดพร้อมปรับผังรายการใหม่เริ่มใช้ตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค. 2556 เป็นต้นไป โดยเน้นผลิตเอง 51% จาก 47% โดยสัดส่วนผังรายการแบ่งออกเป็น รายการข่าว 27% สาระความรู้ 8% สารบันเทิง 18% และรายการบันเทิง 47% พร้อมปรับราคาโฆษณาเพิ่มเฉลี่ยอีก 5% ซึ่งการปรับผังรายการ มีเป้าหมายเพื่อพัฒนารายการให้มีเรตติ้งสูงขึ้น และพัฒนาพื้นที่ขายในกลุ่มรายการประเภทข่าวและบันเทิง โดยมีรายการใหม่เข้ามาคิดเป็น 30% ของรายการทั้งหมด
นายเอนกกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม โมเดิร์นไนน์จะมุ่งเน้นสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการร่วมมือกับทางภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ โดยการจับมือกันในการร่วมสนับสนุนรายการมากขึ้น เช่น ออมสิน, การเคหะแห่งชาติ, ไปรษณีย์ไทย, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สสส., กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงวัฒนธรรม เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวต่อปีมีงบที่ใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่ประชาชนสูงมาก และเป็นงบที่ค่อนข้างเสถียร และการที่ อสมท ทำงานร่วมกับกลุ่มดังกล่าวไม่จำเป็นต้องมีการประมูล ง่ายต่อการทำงาน จึงมุ่งเน้นสร้างรายได้จากข่องทางนี้มากขึ้น คาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท