xs
xsm
sm
md
lg

สยามเซ็นเตอร์พลาดโกยรายได้ปลายปี มาเลเซียบี้ไทยตกที่ 5 รีเทลเอเชีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด
สยามเซ็นเตอร์เลื่อนเปิดเป็น 11 ม.ค. ปีหน้า ฟันธงปีนี้สถานการณ์เอื้อต่อธุรกิจค้าปลีกมากที่สุดปีหนึ่ง วอนภาครัฐสนับสนุนนักลงทุน หวังไทยกลับสู่ท็อป 4 ผู้นำรีเทลในเอเชียอีกครั้ง หลังโดนมาเลเซียแซงขึ้นเป็นอันดับที่สอง

นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ปิดศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมวางแผนเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ล่าสุดจากแผนการรีโนเวตที่ใช้งบรวมกว่า 1,800 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 1,000 ล้านบาทสำหรับการตกแต่งภายนอกอาคารและภายในศูนย์ฯ บวกกับของทางผู้เช่าและเจ้าของแบรนด์รวมกว่า 300 ร้านอีก 800 ล้านบาท ในการรีแบรนดิ้ง ออกแบบและสร้างสรรค์ร้านค้าให้มีความแตกต่างจากที่อื่นๆ ทำให้ต้องเลื่อนการเปิดให้บริการเป็นวันที่ 11 ม.ค. 56 แทน

ทั้งนี้เพื่อให้โฉมใหม่ของสยามเซ็นเตอร์เป็นไปตามคอนเซ็ปต์ Ideaopolis หรือ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ที่จะช่วยยกระดับกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าชั้นนำระดับโลกต่อไป โดยมองว่าภายหลังการเปิดให้บริการในคอนเซ็ปต์ใหม่แล้วจะช่วยให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้นอีก 20-25% จากปกติต่อวันอยู่ที่ 1.5 แสนคน พร้อมช่วยให้ลูกค้าใช้เวลาอยู่ในศูนย์ฯ มากขึ้นจากเดิมเฉลี่ย 2 ชม.ต่อคนต่อครั้ง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสยามเซ็นเตอร์จะไม่สามารถเปิดให้บริการทันในช่วงส่งท้ายปลายปีนี้ แต่ภาพรวมยอดขายในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ มองว่าอีก 2 ศูนย์ คือ สยามดิสคัฟเวอรี่และสยามพารากอนก็ยังไม่ตกลง หรือยังมียอดขายเพิ่มขึ้น 15-20% เนื่องจากลูกค้าบางส่วนของสยามเซ็นเตอร์ก็จะกระจายไปใช้บริการในทั้ง 2 ศูนย์

ขณะเดียวกัน มองว่าปลายปีนี้เป็นปีที่ดีของธุรกิจรีเทลอย่างมากอีกปีหนึ่งหากไม่มีเหตุการณ์วุ่นวาย อีกทั้งฐานลูกค้านักท่องเที่ยวก็เข้ามาเที่ยวในไทยมากขึ้น ทั้งตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย จีน ต่างก็มีตัวเลขเติบโตขึ้น จึงเชื่อมั่นว่าจะส่งให้ตลาดค้าปลีกในไทยกลับมาได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ข้อมูลจากเว็บไซต์ท่องเที่ยวเว็บหนึ่งที่ได้ทำสำรวจเกี่ยวกับท็อป 5 รีเทลในเอเชีย พบว่าไทยตกจากอันดับ 4 สู่อันดับ 5 ในปีนี้ ส่วนมาเลเซียจากเดิมอยู่ในอันดับ 5 ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 2 โดยอันดับ 1 คือฮ่องกง และอันดับสามคือ สิงคโปร์ ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลของมาเลเซียให้การสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว เชิญนักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลไทยช่วยสนับสนุนนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น รวมทั้งวางโครงข่ายด้านลอจิสติกส์เพื่อเป็นฮับในภูมิภาคนี้ให้ได้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจรีเทลและท่องเที่ยวไทยกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง 
กำลังโหลดความคิดเห็น