“ส.อ.ท.” ต่างฝ่ายต่างงัดกฎหมายสู้ กรรมการ ส.อ.ท. 182 เสียงเดินหน้าประชุมโหวตปลดนายพยุงศักดิ์และคณะกรรมการบริหารยกชุดด้วยคะแนนเสียง 139 คะแนน และเสนอชื่อ “สันติ วิลาสศักดานนท์” คัมแบ็กตามคาด ขณะที่อีกฝ่ายโต้ไม่เป็นไปตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 26 พ.ย. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้เกิดความวุ่นวายอย่างมากตั้งแต่ช่วงเช้าที่คณะกรรมการบางส่วนทยอยเดินทางเข้ามาแต่ไม่สามารถประชุมยังห้องมีตติ้งรูม 1-2 ตามมติของ กส.เดิมที่กำหนดไว้ เนื่องจากนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท.ได้แจ้งยกเลิกห้องประชุมเพราะได้แจ้งเลื่อนประชุมออกไป ขณะเดียวกันยังมีการนำกำลังตำรวจ 9 นายมารักษาความปลอดภัยบริเวณพื้นที่การทำงานของ ส.อ.ท.
อย่างไรก็ตาม ที่สุดกรรมการ ส.อ.ท.ที่เดินทางมาได้รวบรวมสมาชิกได้ทั้งหมด 182 เสียง โดยนายสมมาต ขุนเศษฐ เลขาธิการ ส.อ.ท.ได้ระบุว่าเกินกึ่งหนึ่งของ กส.ที่มีทั้งหมด 348 เสียงซึ่งยืนยันเป็นไปตาม พ.ร.บ. ส.อ.ท. ปี 2530 จึงสามารถจัดการประชุมคณะกรรมการ ส.อ.ท.วาระปี 2555-2557 ครั้งที่ 9/2555 (7) โดยในเวลา 15.00 น.ตามระเบียบเดิมที่กำหนด แต่เมื่อไม่สามารถเข้าห้องประชุมได้จึงได้จัดประชุมหน้าห้องแทน
การประชุมได้พิจารณาวาระต่างๆ จนได้เสนอวาระปลดประธานและคณะกรรมการบริหารยกชุด และมีการโหวตลงคะแนนเสียง 139 คะแนนซึ่งถือเป็นกึ่งหนึ่งของผู้ที่มาประชุม 182 เสียง มติดังกล่าวจึงเป็นเอกฉันท์ ต่อมาเวลาประมาณ 17.00 น.ได้มีการลงมติเป็นเอกฉันท์เลือก นายสันติ วิลาสศักดานนท์ อดีตประธาน ส.อ.ท.และผู้บริหารเครือสหพัฒน์กลับมาทำหน้าที่แทน
นายกิตติ ตั้งจิตรมณีศักดา รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวชี้แจงช่วงเช้าว่า ตาม พ.ร.บ. ส.อ.ท.นั้นนายพยุงศักดิ์มีอำนาจสั่งเลื่อนการประชุมได้เพราะประธานมีอำนาจสูงสุดในการบริหารจัดการ ประกอบกับวาระการถอดถอนประธานและ กบ.ถือเป็นเรื่องใหญ่จะเพิ่มเข้ามาในวาระจรหรืออื่นๆ ไม่ได้จะต้องแจ้งล่วงหน้า โดยระเบียบที่จะถอดถอนประธานและ กบ.คือการประชุมสามัญประจำปีและใช้เสียง 2 ใน 3 ของผู้ที่มาประชุม และอีกกรณีคือเป็นคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเท่านั้น
“ผมยืนยันว่า ด้วยระเบียบ ส.อ.ท.แล้วเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะมาปลดกัน และการที่ประธานสั่งเลื่อนก็มีเหตุผลไม่ต้องการให้เผชิญหน้ากัน ซึ่งไม่ว่าใครจะแพ้จะชนะก็จะเกิดความเสียหายต่อ ส.อ.ท.” นายกิตติกล่าว
