เซ็นทรัล เปิดแผนลุยเดอะวันการ์ดปี 2556 ทุ่มมากกว่า 30 ล้านบาทรื้อระบบไอทีใหม่รองรับการผนึกกำลังกันในเครือใช้บัตรกับทางร้านค้าในกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาและโรงแรมเซนทาราในกลุ่มเซ็นทรัล รวมถึงห้างลา รีนาเซนเต้ ที่อิตาลี หวังขยับสมาชิกเพิ่มอีก 5แสนราย ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะมีฐานสมาชิกที่ 4 ล้านคน ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรร่วม 60,000 ล้านบาท
นายระวี พัวพรพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า บัตรเดอะ วัน การ์ด ของเซ็นทรัลรีเทล กำลังเข้าสู่ปีที่8ในปีหน้า ซึ่งทางบริษัทพร้อมพัฒนารูปแบบการใช้งานให้มีความสะดวกและเพิ่มมูลค่าการใช้บัตรให้มากขึ้น ล่าสุดพร้อมทุ่มงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาทสำหรับวางระบบไอทีครั้งใหญ่ เพื่อรองรับการใช้บัตรผ่านพันธมิตรในกลุ่มเซ็นทรัลมากขึ้น ทั้งกลุ่มร้านค้าในกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา และโรงแรมเซ็นทาราในกลุ่มเซ็นทรัลทุกสาขาทั่วโลก ซึ่งจะเริ่มได้ในช่วงต้นปีหน้าเป็นไป รวมถึงห้างลา รีนาเซนเต้ ที่อิตาลีด้วยที่กลุ่มเซ็นทรัลไปซื้อกิจการมาก่อนหน้านี้
"ทางบริษัทพร้อมที่จะทำโปรแกรมส่งเสริมการใช้บัตรเดอะ วัน การ์ด ร่วมกับทางกลุ่มเซ็นทรัลมากขึ้น เช่น กลุ่มโรงแรมเซ็นทาราปัจจุบันในต่างประเทศมีการออกบัตรสมาชิกเดอะวันการ์ดแล้วเช่นกัน ซึ่งสมาชิกสามารถนำแต้มมาใช้แลกซื้อสินค้าทางศูนย์การค้าในกลุ่มเซ็นทรัลได้ทั้งหมด "
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 นั้น คือ 1. ตั้งเป้าสมาชิกเดอะ วัน การ์ด เพิ่มขึ้นอีก 5 แสนราย จากการเปิดสาขาใหม่ของธุรกิจในเครือเซ็นทรัลรีเทล 2.เพิ่มช่องทางการรับสมัครสมาชิกผ่านเว็บไซต์ โดยลูกค้าสามารถรับหมายเลขสมาชิกออนไลน์ และนำหมายเลขไปใช้สะสมคะแนนได้เช่นเดียวกับบัตรพลาสติก 3.เพิ่มช่องทางการแลกคะแนนผ่านระบบ USSD (ผ่านโทรศัพท์มือถือ) 4.การแจ้งเบอร์โทรศัพท์เพื่อสะสมคะแนนแทนการใช้บัตร เดอะ วัน การ์ด เริ่มเดือนธ.ค.นี้ ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และจะเริ่มทยอยการให้บริการครอบคลุมทุกบริษัทในเครือในต้นปี 2556 เป็นต้นไป ภายใต้งบการตลาดต่อปี 30 ล้านบาท แต่หากรวมกับหน่วยธุรกิจอื่นๆที่ร่วมกันโปรโมทการใช้บัตร ต่อปีใช้งบสูงถึง 100 ล้านบาท
นายระวี กล่าวต่อว่า ภาพรวมการใช้บัตรเดอะวันการ์ดถึงสิ้นปีนี้จะปิดที่ 4 ล้านราย ขณะที่ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งหมดคาดว่าจะสูงถึง 60,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2 หลักจากปีก่อน ส่วนฐานหลักของสมาชิกบัตรคือกลุ่มครอบครัว ขณะที่การแลกคะแนนนั้น กว่า 50% จะใช้แลกเพื่อความบันเทิง รองลงมาคือ ร้านอาหาร 30% และอื่นอีก 20%
