“อสมท” ดิ้นลดต้นทุนเพิ่มรายได้ จ่อตั้งสำนักพัฒนาสินทรัพย์ โฟกัสที่ดินที่ทิ้งไว้เร่งพัฒนาหารายได้ให้คุ้มค่า ผนึกรัฐวิสาหกิจจัดอีเวนต์เสริมรายได้ พร้อมคุมเข้มเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง เผยเม็ดเงิน 5,000 ล้านบาท พร้อมกรำศึกดิจิตอลทีวีปีหน้า
นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีนโยบายที่จะลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ให้แก่องค์กรมากขึ้น ซึ่งการดำเนินงานทุกอย่างจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในปีหน้า โดยในส่วนของการลดค่าใช้จ่ายนั้นจะมีการเข้มงวดและทำกันเป็นระบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ต่างๆ จะลดลงและมีการควบคุมเข้มงวดมากขึ้น มีเป้าหมายที่ชัดเจนแน่นอนในการทำงาน ในส่วนของการตอบแทนบุคลากรหรือค่าจ้างสวัสดิการต่างๆ ก็จะทำให้เป็นระบบมากขึ้น
ส่วนการเพิ่มรายได้นั้น มีแผนที่จะจัดตั้งสำนักงานพัฒนาสินทรัพย์ภายในปลายปีนี้ เพื่อบริหารจัดการสินทรัพย์ที่มีอยู่ทั้งหมดให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นจากเดิมที่ไม่ค่อยได้เน้นมากนัก ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน คลื่นวิทยุต่างจังหวัด เป็นต้น โดย อสมท มีที่ดินแปลงใหญ่ เช่น รัชดาภิเษก 50 ไร่, หนองแขม 40 ไร่ และบางไผ่ 58 ไร่ และในต่างจังหวัดอีกจำนวนหนึ่ง รวมไปถึงคลื่นวิทยุในต่างจังหวัดที่มีมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาทก็จะจัดการให้เป็นระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนั้น จะยังมีการร่วมมือกันด้วยการเซ็นบันทึกความเข้าใจกับหน่วยงานราชการ รัฐวิสหากิจต่างๆ เพื่อให้ อสมท เข้าไปรับจัดอีเวนต์ให้และการทำสื่อประชาสัมพันธ์ด้วย เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้ อสมท ตามแผนการเพิ่มรายได้ และคาดว่าปีหน้าในส่วนนี้จะมีรายได้มากกว่า 500 ล้านบาท
สาเหตุที่ต้องพยายามสร้างรายได้มากขึ้นนั้น เนื่องจากว่าค่าใช้จ่ายของ อสมท เพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุดผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2555 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกัน และในช่วง 9 เดือนแรกปีที่แล้ว 12% ซึ่งจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโทรทัศน์และวิทยุ สัดส่วนมากกว่า 50% ของค่าใช้จ่ายรวม โดยไตรมาสสามเพิ่มขึ้น 14% และช่วง 9 เดือนแรกเพิ่มขึ้น 15%
สำหรับโครงการดิจิตอลทีวีนั้น อสมท คาดว่าจะต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท เช่น 1. ค่าลงทุนต่อช่องประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่ง อสมท มีเป้าหมายที่จะทำ 5 ช่อง รวมกว่า 2,500 ล้านบาท 2. การลงทุนด้านโครงข่าย 2,800 ล้านบาท 3. การยกระดับและพัฒนาสื่อที่มีอยู่ 500 ล้านบาท ซึ่ง อสมท มีเงินสดของตัวเองอยู่แล้วไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งเราเองมีนโยบายที่จะหาคู่ค้าหรือพาร์ตเนอร์ทั้งด้านเงินทุน และด้านคอนเทนต์ด้วยไม่ได้ลงทุนฝ่ายเดียว รวมทั้งได้เจรจากับทางสถาบันการเงิน อย่างเช่น แบงก์กสิกรไทย แบงก์กรุงไทย ไว้บ้างแล้วจึงไม่มีปัญหาเรื่องเงินทุน
สำหรับผลประกอบการของบริษัทช่วง 9 เดือนแรกปี 2555 มีรายได้ประมาณ 4,370 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 4,173 ล้านบาท และมีกำไร 1,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไร 1,241 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมไตรมาส 3 มีรายได้ 1,554 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่มีรายได้ 1,377 ล้านบาท มีกำไร 482 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากไตรมาส 2 ที่มีกำไร 369 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าทั้งปีนี้ อสมท จะมีการเติบโต 10% และปีหน้าคาดว่าจะเติบโต 10-15%
นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีนโยบายที่จะลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ให้แก่องค์กรมากขึ้น ซึ่งการดำเนินงานทุกอย่างจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในปีหน้า โดยในส่วนของการลดค่าใช้จ่ายนั้นจะมีการเข้มงวดและทำกันเป็นระบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ต่างๆ จะลดลงและมีการควบคุมเข้มงวดมากขึ้น มีเป้าหมายที่ชัดเจนแน่นอนในการทำงาน ในส่วนของการตอบแทนบุคลากรหรือค่าจ้างสวัสดิการต่างๆ ก็จะทำให้เป็นระบบมากขึ้น
ส่วนการเพิ่มรายได้นั้น มีแผนที่จะจัดตั้งสำนักงานพัฒนาสินทรัพย์ภายในปลายปีนี้ เพื่อบริหารจัดการสินทรัพย์ที่มีอยู่ทั้งหมดให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นจากเดิมที่ไม่ค่อยได้เน้นมากนัก ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน คลื่นวิทยุต่างจังหวัด เป็นต้น โดย อสมท มีที่ดินแปลงใหญ่ เช่น รัชดาภิเษก 50 ไร่, หนองแขม 40 ไร่ และบางไผ่ 58 ไร่ และในต่างจังหวัดอีกจำนวนหนึ่ง รวมไปถึงคลื่นวิทยุในต่างจังหวัดที่มีมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาทก็จะจัดการให้เป็นระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนั้น จะยังมีการร่วมมือกันด้วยการเซ็นบันทึกความเข้าใจกับหน่วยงานราชการ รัฐวิสหากิจต่างๆ เพื่อให้ อสมท เข้าไปรับจัดอีเวนต์ให้และการทำสื่อประชาสัมพันธ์ด้วย เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้ อสมท ตามแผนการเพิ่มรายได้ และคาดว่าปีหน้าในส่วนนี้จะมีรายได้มากกว่า 500 ล้านบาท
สาเหตุที่ต้องพยายามสร้างรายได้มากขึ้นนั้น เนื่องจากว่าค่าใช้จ่ายของ อสมท เพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุดผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2555 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกัน และในช่วง 9 เดือนแรกปีที่แล้ว 12% ซึ่งจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโทรทัศน์และวิทยุ สัดส่วนมากกว่า 50% ของค่าใช้จ่ายรวม โดยไตรมาสสามเพิ่มขึ้น 14% และช่วง 9 เดือนแรกเพิ่มขึ้น 15%
สำหรับโครงการดิจิตอลทีวีนั้น อสมท คาดว่าจะต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท เช่น 1. ค่าลงทุนต่อช่องประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่ง อสมท มีเป้าหมายที่จะทำ 5 ช่อง รวมกว่า 2,500 ล้านบาท 2. การลงทุนด้านโครงข่าย 2,800 ล้านบาท 3. การยกระดับและพัฒนาสื่อที่มีอยู่ 500 ล้านบาท ซึ่ง อสมท มีเงินสดของตัวเองอยู่แล้วไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งเราเองมีนโยบายที่จะหาคู่ค้าหรือพาร์ตเนอร์ทั้งด้านเงินทุน และด้านคอนเทนต์ด้วยไม่ได้ลงทุนฝ่ายเดียว รวมทั้งได้เจรจากับทางสถาบันการเงิน อย่างเช่น แบงก์กสิกรไทย แบงก์กรุงไทย ไว้บ้างแล้วจึงไม่มีปัญหาเรื่องเงินทุน
สำหรับผลประกอบการของบริษัทช่วง 9 เดือนแรกปี 2555 มีรายได้ประมาณ 4,370 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 4,173 ล้านบาท และมีกำไร 1,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไร 1,241 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมไตรมาส 3 มีรายได้ 1,554 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่มีรายได้ 1,377 ล้านบาท มีกำไร 482 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากไตรมาส 2 ที่มีกำไร 369 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าทั้งปีนี้ อสมท จะมีการเติบโต 10% และปีหน้าคาดว่าจะเติบโต 10-15%