“ประภัสร์” ประกาศเร่งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ร.ฟ.ท.1.7 แสนล้าน เริ่มต้นปรับโฉม ร.ฟ.ท.ชี้ต้องเริ่มต้นเพราะแต่ละงานใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล ขณะที่เตรียมปรับปรุงบ้านพักพนักงานยกคุณภาพชีวิตเหตุสภาพสุดโทรม แบ่งงานรองผู้ว่าฯ ยันยุคนี้ไม่มีใครนั่งตบยุง จ่อดึงแอร์ไลน์เปิดเช็กอินที่แอร์พอร์ตลิงก์ โดยต้องมีดิวตี้ฟรี-ร้านอาหารจูงใจ จับตา “คิงเพาเวอร์” มีสิทธิ์ส้มหล่น
นายประภัสร์ จงสงวน ว่าที่ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงแนวทางการบริหาร ร.ฟ.ท.ว่าจะเร่งรัดการดำเนินโครงการต่างๆ ที่อยู่ในแผนลงทุนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 176,808 ล้านบาท โดยภายหลังเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการจะดูว่าโครงการในแผน 1.7 แสนล้านบาทมีปัญหา อุปสรรคหรือข้อติดขัดตรงไหนบ้างเพื่อเร่งแก้ไขและตั้งเป้าว่าจะต้องประกวดราคาและลงนามสัญญากับผู้รับเหมาให้ครบทุกโครงการโดยเร็วที่สุด เพราะแต่ละโครงการจะใช้เวลาในการดำเนินการนาน เช่น การจัดซื้อหัวรถจักร โบกี้และแคร่รถสินค้า การปรับปรุงรางและระบบต่างๆ จึงกลายเป็นข้อเสียเปรียบของ ร.ฟ.ท. ซึ่งเห็นว่าหากไม่ได้เริ่มต้นก็จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงแน่นอน
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องทำคู่ขนานไปกับการปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน คือ การสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่พนักงาน ซึ่งปัจจุบันพบว่าบ้านพักพนักงาน เช่น ย่านบางซื่อ กม.11 และบ้านพักพนักงานตามสถานีต่างๆ รวมถึงสถานีรถไฟทั่วประเทศมีสภาพทรุดโทรม ต้องปรับปรุงเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตพนักงานให้ดีขึ้นและทำให้พนักงานมีส่วนร่วมในการปรับปรุงองค์กร โดยหลักการทำงานจะมอบหมายให้รองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ช่วยกันรับผิดชอบ โดยแบ่งเป็นภาคหรือโซนเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมเร็วขึ้น
“ก่อนเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการได้ไปทดลองใช้บริการรถไฟ พบว่ามีปัญหาค่อนข้างมาก ทั้งการให้บริการ สภาพเส้นทาง ขบวนรถ สถานี สภาพแย่มาก และเห็นว่างบ 1.7 แสนล้านบาทที่ได้รับอนุมัติแล้วนั้นต้องตะลุยผลักดันให้เสร็จเร็วๆ นี้ ยุคผมเป็นผู้ว่าฯ จะไม่มีรองผู้ว่าฯ คนไหนว่างไม่มีงานทำ นั่งเฉยๆ ไปวันๆ ด้วยข้อหาผู้ว่าฯ ไม่ชอบแน่นอน” นายประภัสร์กล่าว
ส่วนการปรับปรุงแอร์พอร์ตลิงก์นั้น นายประภัสร์กล่าวว่าจะเร่งปรับปรุงปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มลิฟต์ บันไดเลื่อนทางเข้า-ออกสถานี และทางเชื่อมสถานีมักกะสันกับรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) และจะเจรจาสายการบินต่างๆ ให้เป็นพันธมิตรในการเปิดบริการเช็กอินผู้โดยสารของสายการบินที่สถานีมักกะสันเพิ่มเติม โดยจะต้องสร้างแรงจูงใจ เช่น ต้องมีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) บริการผู้โดยสารของสายการบินด้วย โดยร้านดิวตี้ฟรีนั้นหากเป็นรายใหม่จะติดขัดเรื่องการรับสินค้าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งคิงเพาเวอร์ได้รับสัมปทานอยู่ อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงเพื่อทำให้ผู้โดยสารสะดวกมากขึ้นมีเป้าหมายจะต้องเห็นผลใน 6 เดือน