ASTVผู้จัดการรายวัน-ทอท.ป่วน การเมืองสั่งเปลี่ยนตัวเอ็มดี เขี่ย "อนิรุทธิ์" พ้นเก้าอี้ เผยข้อหาหนัก ขัดผลประโยชน์ฝ่ายการเมือง เอื้อกลุ่มคิงเพาเวอร์ฯ กินรวบดิวตี้ฟรีดอนเมือง ทำฝ่ายนโยบายไม่ปลื้มอย่างแรง ส่วนสุวรรณภูมิยังมีปัญหาซ้ำซากจนนายกฯ ต้องลงไปเร่งรัดเฟส 2 และ3 เอง จับตาไม่ผ่านประเมิน 1 ปี บีบลาออก ขณะที่ “อนิรุทธิ์”ยอมรับหากต้องถูกเลิกจ้าง
เผยทำตามนโยบายเต็มที่ ด้าน”สุเมธ”โยนเจ้าตัวตัดสินใจเอง
แหล่งข่าวจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่า ฝ่ายการเมืองผู้กำกับนโยบายไม่พอใจการทำงานของว่าที่เรืออากาศโทอนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.อย่างมาก และอาจมีผลต่อการประเมินผลงานรอบ 1 ปี โดยเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการประเมินผลงานของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ที่มีนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ กรรมการ (บอร์ด) ทอท.เป็นประธาน ได้นัดประชุมเพื่อสรุปคะแนนประเมินผลงาน แต่ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากข้อมูลไม่ครบถ้วน โดยคาดว่าสาเหตุหลักเนื่องจากมีการเจรจาต่อรองเพื่อให้ว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ยื่นใบลาออกก่อนแต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมา ทอท. มีปัญหาหลายเรื่อง เช่น การปิดซ่อมรันเวย์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ทำให้เที่ยวบินล่าช้าจำนวนมาก กรณีเรดาร์จอดับ รวมถึงปัญหาการให้บริการภายในต่างๆ ที่ทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวก จนทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีต้องลงไปเร่งรัดและให้นโยบายในการทำงานแก่ทอท.เอง ทั้งเรื่องโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 โดยให้ปรับลดระยะเวลาดำเนินงานจาก 70 เดือนเหลือ 58 เดือน เร่งรัดเฟส 3 และ 4 การก่อสร้างรันเวย์ที่ 3 ต่อเนื่องทันที รวมทั้งเร่งรัดการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ของท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
โดยประเด็นสำคัญที่ถูกมองว่าทำให้ฝ่ายการเมืองยื่นคำขาด คือ การประมูลร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งบริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ชนะประมูลได้สัญญา 10 ปี (1 ต.ค.2555-30 ก.ย.2565) โดยเสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้ทอท.ถึง 63 ล้านบาทต่อเดือนหรือ 756 ล้านบาทต่อปี ปรับขึ้นทุกปีๆ ละ 10% ทิ้งห่างอันดับสอง คือ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น ที่เสนอผลตอบแทนที่ 40.625 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งที่มีกระแสข่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลฯ จะเป็นผู้ชนะการประมูลดิวตี้ฟรีดอนเมืองก่อนที่ ทอท. จะมีการเปิดซองราคา เป็นการหักกับฝ่ายการเมือง ในขณะที่บอร์ด ทอท.ต้องใช้เวลาในการพิจารณาความเป็นไปได้ข้อเสนอของคิงเพาเวอร์ฯ หลายครั้ง แต่ต้องอนุมัติ เพราะต้องเร่งเปิดสนามบินดอนเมืองเต็มรูปแบบวันที่ 1 ต.ค.2555
พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.กล่าวว่า ยังไม่เห็นหนังสือลาออกของว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ซึ่งหากจะลาออกจริง ตามสัญญาจ้างต้องแจ้งล่วงหน้า 30 วัน ซึ่งสามารถยื่นกับประธานบอร์ดหรือจะยื่นในที่ประชุมบอร์ดวันที่ 25 ต.ค.นี้ก็ได้ ส่วนจะมีการลาออกหรือไม่นั้น ได้บอกกับว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ให้ตัดสินใจเอง สำหรับการประเมินผลงาน 1 ปี ทราบว่าคณะกรรมการประเมินอยู่ระหว่างการสรุปผล ซึ่งจะมีการรายงานต่อที่ประขุมบอร์ดในวันที่ 25 ต.ค.นี้เช่นกัน ทั้งนี้ ในภาพรวมการทำงานของว่าที่ร.ท.อนิรุทธิ์ ก็ถือว่าเป็นไปด้วยดี แม้ว่าการปิดซ่อมรันเวย์จะมีผลกระทบและปัญหาบ้าง แต่ก็ถือว่าไม่มาก
ด้านว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ยังปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ตามปกติ ยังไม่ยื่นใบลาออกตามที่มีกระแสข่าว และเห็นว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องลาออก ยอมรับว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวลือว่าตนจะลาออก อาจเพราะเป็นช่วงที่จะมีการประเมินผลงาน 1 ปี ซึ่งการประเมินผลการทำงานมีเงื่อนไขกำหนดไว้ชัดเจนและหากผู้ว่าจ้างต้องการเลิกจ้างก็เป็นสิทธิ์ของผู้ว่าจ้าง ส่วนที่ระบุว่าฝ่ายนโยบายไม่พอใจผลงานนั้น ที่ผ่านมาได้ทำงานตามที่ฝ่ายนโยบายมอบหมายอย่างเต็มที่
สำหรับว่าที่ร.ท.อนิรุทธิ์นั้นเริ่มงานตั้งแต่ 27 ต.ค.2554 ผลตอบแทน 6.3 แสนบาทต่อเดือน กำหนดประเมินผลงาน 1 ปีวันที่ 30 ก.ย.2555 (ตามปีงบประมาณ) ซึ่งว่าที่ร.ท.อนิรุทธิ์มีทางเลือกทั้งการลาออกก่อนครบสัญญาจ้าง 4 ปี แต่จะไม่ได้รับเงินชดเชยใดๆ ในกรณีที่ผ่านการประเมินผลงานและได้รับอนุญาตให้ลาออกได้ กรณีนี้จะได้รับค่าตอบแทนพิเศษไม่เกิน 20% ของค่าตอบแทนที่เป็นเงินเดือนรวมแต่ละปี แต่หากไม่ผ่านการประเมินผลงานจะถูกเลิกสัญญาจ้าง โดยไม่ได้รับชดเชยใดๆ
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่า นายพฤทธิ์ บุปผาคำ อดีตรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นคนนอกที่ฝ่ายการเมืองจะให้เข้ามาบริหาร ทอท. แต่ขณะนี้นายพฤทธิ์ติดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนเช่น ออกจากการบินไทยยังไม่เกิน 3 ปี และยังถูกสอบสวนและมีคดีฟ้องร้องที่ยังไม่ยุติ ส่วนอีกรายคือ พ.ต.ท.ไพโรจน์ ปัญจประทีป อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานสาลกกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งเคยสมัครสรรหาเอ็มดีทอท.ครั้งที่ผ่านมา
เผยทำตามนโยบายเต็มที่ ด้าน”สุเมธ”โยนเจ้าตัวตัดสินใจเอง
แหล่งข่าวจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่า ฝ่ายการเมืองผู้กำกับนโยบายไม่พอใจการทำงานของว่าที่เรืออากาศโทอนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.อย่างมาก และอาจมีผลต่อการประเมินผลงานรอบ 1 ปี โดยเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการประเมินผลงานของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ที่มีนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ กรรมการ (บอร์ด) ทอท.เป็นประธาน ได้นัดประชุมเพื่อสรุปคะแนนประเมินผลงาน แต่ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากข้อมูลไม่ครบถ้วน โดยคาดว่าสาเหตุหลักเนื่องจากมีการเจรจาต่อรองเพื่อให้ว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ยื่นใบลาออกก่อนแต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมา ทอท. มีปัญหาหลายเรื่อง เช่น การปิดซ่อมรันเวย์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ทำให้เที่ยวบินล่าช้าจำนวนมาก กรณีเรดาร์จอดับ รวมถึงปัญหาการให้บริการภายในต่างๆ ที่ทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวก จนทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีต้องลงไปเร่งรัดและให้นโยบายในการทำงานแก่ทอท.เอง ทั้งเรื่องโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 โดยให้ปรับลดระยะเวลาดำเนินงานจาก 70 เดือนเหลือ 58 เดือน เร่งรัดเฟส 3 และ 4 การก่อสร้างรันเวย์ที่ 3 ต่อเนื่องทันที รวมทั้งเร่งรัดการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ของท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
โดยประเด็นสำคัญที่ถูกมองว่าทำให้ฝ่ายการเมืองยื่นคำขาด คือ การประมูลร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งบริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ชนะประมูลได้สัญญา 10 ปี (1 ต.ค.2555-30 ก.ย.2565) โดยเสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้ทอท.ถึง 63 ล้านบาทต่อเดือนหรือ 756 ล้านบาทต่อปี ปรับขึ้นทุกปีๆ ละ 10% ทิ้งห่างอันดับสอง คือ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น ที่เสนอผลตอบแทนที่ 40.625 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งที่มีกระแสข่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลฯ จะเป็นผู้ชนะการประมูลดิวตี้ฟรีดอนเมืองก่อนที่ ทอท. จะมีการเปิดซองราคา เป็นการหักกับฝ่ายการเมือง ในขณะที่บอร์ด ทอท.ต้องใช้เวลาในการพิจารณาความเป็นไปได้ข้อเสนอของคิงเพาเวอร์ฯ หลายครั้ง แต่ต้องอนุมัติ เพราะต้องเร่งเปิดสนามบินดอนเมืองเต็มรูปแบบวันที่ 1 ต.ค.2555
พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.กล่าวว่า ยังไม่เห็นหนังสือลาออกของว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ซึ่งหากจะลาออกจริง ตามสัญญาจ้างต้องแจ้งล่วงหน้า 30 วัน ซึ่งสามารถยื่นกับประธานบอร์ดหรือจะยื่นในที่ประชุมบอร์ดวันที่ 25 ต.ค.นี้ก็ได้ ส่วนจะมีการลาออกหรือไม่นั้น ได้บอกกับว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ให้ตัดสินใจเอง สำหรับการประเมินผลงาน 1 ปี ทราบว่าคณะกรรมการประเมินอยู่ระหว่างการสรุปผล ซึ่งจะมีการรายงานต่อที่ประขุมบอร์ดในวันที่ 25 ต.ค.นี้เช่นกัน ทั้งนี้ ในภาพรวมการทำงานของว่าที่ร.ท.อนิรุทธิ์ ก็ถือว่าเป็นไปด้วยดี แม้ว่าการปิดซ่อมรันเวย์จะมีผลกระทบและปัญหาบ้าง แต่ก็ถือว่าไม่มาก
ด้านว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ยังปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ตามปกติ ยังไม่ยื่นใบลาออกตามที่มีกระแสข่าว และเห็นว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องลาออก ยอมรับว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวลือว่าตนจะลาออก อาจเพราะเป็นช่วงที่จะมีการประเมินผลงาน 1 ปี ซึ่งการประเมินผลการทำงานมีเงื่อนไขกำหนดไว้ชัดเจนและหากผู้ว่าจ้างต้องการเลิกจ้างก็เป็นสิทธิ์ของผู้ว่าจ้าง ส่วนที่ระบุว่าฝ่ายนโยบายไม่พอใจผลงานนั้น ที่ผ่านมาได้ทำงานตามที่ฝ่ายนโยบายมอบหมายอย่างเต็มที่
สำหรับว่าที่ร.ท.อนิรุทธิ์นั้นเริ่มงานตั้งแต่ 27 ต.ค.2554 ผลตอบแทน 6.3 แสนบาทต่อเดือน กำหนดประเมินผลงาน 1 ปีวันที่ 30 ก.ย.2555 (ตามปีงบประมาณ) ซึ่งว่าที่ร.ท.อนิรุทธิ์มีทางเลือกทั้งการลาออกก่อนครบสัญญาจ้าง 4 ปี แต่จะไม่ได้รับเงินชดเชยใดๆ ในกรณีที่ผ่านการประเมินผลงานและได้รับอนุญาตให้ลาออกได้ กรณีนี้จะได้รับค่าตอบแทนพิเศษไม่เกิน 20% ของค่าตอบแทนที่เป็นเงินเดือนรวมแต่ละปี แต่หากไม่ผ่านการประเมินผลงานจะถูกเลิกสัญญาจ้าง โดยไม่ได้รับชดเชยใดๆ
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่า นายพฤทธิ์ บุปผาคำ อดีตรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นคนนอกที่ฝ่ายการเมืองจะให้เข้ามาบริหาร ทอท. แต่ขณะนี้นายพฤทธิ์ติดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนเช่น ออกจากการบินไทยยังไม่เกิน 3 ปี และยังถูกสอบสวนและมีคดีฟ้องร้องที่ยังไม่ยุติ ส่วนอีกรายคือ พ.ต.ท.ไพโรจน์ ปัญจประทีป อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานสาลกกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งเคยสมัครสรรหาเอ็มดีทอท.ครั้งที่ผ่านมา
