เอ็มพีซีฯ โขกลิขสิทธิ์ผับบาร์ อัด กม.กวาดล้างเพลง ตปท.

ตลาดลิขสิทธ์เพลงสะดุดปัญหาใหญ่ เหตุ ผับบาร์ ร้านอาหาร แหล่งหารายได้หลักยังเข้าถึงได้ช้า ส่งผลปีนี้โตเพียง 10% แตะ 500 ล้านบาท “เอ็มพีซี มิวสิค” เบอร์หนึ่งธุรกิจลิขสิทธ์เพลงต่างประเทศ เร่งเครื่องสร้างแบรนด์ สร้างความเข้าใจ พร้อมจับมือพันธมิตรและกฏหมาย ลุยผับบาร์เต็มสูบ หวังดันรายได้ปีหน้าทะลุ 100 ล้านบาท 

นายนัดดา บุรณศิริ กรรมการบริหาร บริษัท เอ็มพีซี มิวสิค จำกัด เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลงในประเทศไทย ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 500 ล้านบาท เติบโต 10% มาจาก 3 ช่องทางหลัก คือ 1.คาราโอเกะ 2.ผับ บาร์ ร้านอาหาร และ3.โรงแรม สายการบิน วิทยุ และทีวี ซึ่งในความเป็นจริงเป็นตัวเลขที่น้อยมากเมื่อเทียบกับบางประเทศอื่นๆทั่วโลก จากการคิดค่าลิขสิทธิ์ต่อหน่วยของประชากรไทย ซึ่งพบว่าน้อยกว่ามาเลเซีย5 เท่า, น้อยกว่าสิงคโปร์ 25 เท่า, น้อยกว่าฮ่องกง 28 เท่า และน้อยกว่าแคนาดา 300 เท่า 

สาเหตุสำคัญมาจากความสับสนของผู้ประกอบการที่ไม่ทราบว่าจะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ดังกล่าวให้กับหน่วยงานใดแน่ เนื่องจากปัจจุบันในไทยมีบริษัทที่ดูแลจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์กว่า 20-30 บริษัท ขณะที่ในต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีเพียงบริษัทเดียวเท่านั้น ขณะเดียวกันยังพบว่า ในส่วนของผู้ประกอบการเกี่ยวกับสถานบันเทิง เช่น ผับ บาร์ และร้านอาหาร ที่ต้องมีการนำเพลงไปเปิดถือเป็นกลุ่มใหญ่ของการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงมากสุด แต่กลับเป็นกลุ่มที่เข้าถึงได้ช้าที่สุด เนื่องจากปัจจุบันเป็นการเข้าไปพูดคุยทีละร้าน ทำให้เกิดความล่าช้าในการเข้าไปดูแลค่าลิขสิทธิ์ได้หมด และสามารถเข้าถึงได้เพียง 30%ในขณะนี้ ของกลุ่มผับบาร์ ที่มีกว่า 15,000 ร้านทั่วประเทศ และเข้าถึงกลุ่มร้านอาหารเพียง 30% ในจำนวน 30,000 ร้านทั่วประเทศเช่นกัน
 
ดังนั้นทางบริษัทจึงมีแผนที่จะเข้าไปรุกในกลุ่มผับ บาร์ และร้านอาหารมากยิ่งขึ้น โดยการนำมาตรการกฏหมายและพันธมิตรเข้ามาช่วย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพเร็วขึ้น พร้อมเพิ่มบริการพิเศษ อย่าง Music Mall จัดเก็บส่งเพลงที่เหมาะสมกับธุรกิจของผู้ประกอบการนั้นๆด้วย ที่สำคัญจะเร่งสร้างแบรนด์ เอ็มพีซี มิวสิค ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น รวมทั้งให้ความรู้สร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบ มั่นใจว่าจะส่งให้ภาพรวมรายได้ในปีหน้าอยู่ที่ 100 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะเติบโต 10% หรือมีส่วนแบ่งในตลาดราว 20% 

ด้านนายรณพงศ์ คำนวณทิพย์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ็มพีซี มิวสิค จำกัด กล่าวเสริมว่า ทั้งนี้หากสามารถจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลงครอบคลุมผับ บาร์ และร้านอาหารทั้งหมดแล้ว กลุ่มดังกล่าวจะเป็นกลุ่มสร้างรายได้หลักของตลาด ที่คาดว่าจะมีสัดส่วนสูงถึง 80-90% ต่อไปในอนาคต ขณะที่ปัจจุบันพบว่ากลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มร้านคาราโอเกะ ครองสัดส่วน 40% รองลงมา คือ ผับ บาร์ ร้านอาหาร 20% และอีก 20% มาจากโรงแรม สายการบิน วิทยุ และโทรทัศน์ 20% โดยแนวโน้มของกลุ่มร้านคาราโอเกะมีน้อยลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันคาดว่ามีเพียง 10,000 แห่งทั่วประเทศ สาเหตุหลักมาจากผู้บริโภคร้องเพลงน้อยลง อีกทั้งค่าจัดเก็บสิขสิทธิ์ของร้านคาราโอกะถือว่าสูงสุด คือ อยู่ที่ 5,000 บาทต่อจอต่อปี รองลงคือ ผับ บาร์ เริ่มต้นที่ 10,000บาทต่อปี และร้านอาหารเริ่มต้นที่ 5,000 บาทต่อปี ในขนาดไม่เกิน 60 ที่นั่ง 

อย่างไรก็ตาม เอ็มพีซี มิวสิค เป็นบริษัทที่ดูแลการจัดเก็บลิขสิทธิ์งานเพลงให้แก่ค่ายเพลงสากลขนาดใหญ่ทั่วโลกกว่า 10 ล้านเพลง ให้แก่ EMI, Sony, Universal, และWarnerในประเทศไทย รวมถึงดูแลลิขสิทธิ์เพลงให้ค่ายเพลงในไทยอย่าง KPN Music, Butterfly Records, Wave Entertainment, Panther Entertainment และมูลนิธิหลวงประดิษฐ์ไพเราะ เป็นต้น รวมแล้ว เอ็มพีซีฯ ถือเป็นผู้นำการจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลงต่างประเทศในไทยกว่า 90%