“พาณิชย์” โดดอุ้มเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู เตรียมชง “บุญทรง” ยกเลิกประกาศราคาแนะนำชั่วคราว หวังช่วยผู้เลี้ยงขยับราคาหมูเป็นตามต้นทุนได้สะดวกขึ้น หวั่นยึดกรอบมากไปจะทำหมูแพงจนคนเดือดร้อน
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมฯ ทำการศึกษาผลดีผลเสียของการยกเลิกการออกประกาศราคาแนะนำสินค้าหมูเป็นการชั่วคราว โดยให้ประเมินว่าหากมีการยกเลิกราคาแนะนำเนื้อหมูแล้วจะส่งผลกระทบต่อราคาหมูทั้งระบบหรือไม่อย่างไร หรือหากปล่อยให้หมูเป็นมีการขยับราคาขึ้นลงได้ตามต้นทุนที่แท้จริงจะส่งผลกระทบต่อราคาเนื้อหมูหน้าเขียงอย่างไร ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็จะนำเสนอให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ มาตรการในการยกเลิกราคาแนะนำเนื้อหมูเป็นการชั่วคราวเพื่อช่วยเหลือผู้เลี้ยงหมูที่ประสบภาวะขาดทุนจากราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มตกต่ำหนัก ซึ่งหากยกเลิกราคาแนะนำไว้ก่อนจะทำให้ผู้เลี้ยงหมูสามารถขยับราคาขึ้นลงตามกลไกตลาดได้สะดวกขึ้นเพื่อลดภาระการขาดทุน
“ขณะนี้ราคาหมูหน้าเขียงกำหนดให้ขยับขึ้นตามต้นทุนหมูเป็นหน้าฟาร์ม โดยจะมีสูตรคำนวณการปรับราคาไว้เป็นช่วงๆ เพื่อไม่ให้มีการปรับขึ้นราคาเกินกว่าต้นทุนที่เป็นจริง โดยขณะนี้ราคาหมูหน้าเขียง (สะโพก ไหล่) ส่วนใหญ่อยู่ที่ กก.ละ 90 กว่าบาท ซึ่งหากหมูเป็นราคาเพิ่มขึ้น ราคาหน้าเขียงก็จะมีการขยับขึ้นเล็กน้อย คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากนัก” น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าว
สำหรับราคาแนะนำหมูทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 15-22 ต.ค. 2555 ราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า กก.ละ 48-54 บาท ราคาหมูซีกไม่ต่ำกว่า กก.ละ 59-65 บาท หมูเนื้อแดง (เนื้อสะโพก เนื้อไหล่) ราคาไม่ต่ำกว่า กก.ละ 83-91 บาท ส่วนราคาขายปลีกหมูเนื้อแดงราคาไม่ต่ำกว่า กก.ละ 98-106 บาท
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า การออกมาตรการดูแลกลุ่มผู้เลี้ยงหมูเกิดขึ้นหลังจากที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเตรียมยื่นหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์เพื่อขอปรับขึ้นราคาแนะนำหมูเป็นหน้าฟาร์ม กก.ละ 5 บาทในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหมูหน้าเขียงปรับขึ้นมา กก.ละ 10 บาท เนื่องจากผู้เลี้ยงหมูได้รับผลกระทบจากราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มปรับลดลงมาก โดยราคาแนะนำสัปดาห์นี้อยู่ที่เพียง กก.ละ 48 บาทเท่านั้น แม้จะเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่ กก.ละ 2 บาท แต่ยังทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงขาดทุนมาก ซึ่งราคาดังกล่าวลดลงจากช่วงเดือน มิ.ย.อยู่ที่ กก.ละ 60-62 บาท และมาต่ำสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ กก.ละ 46 บาท
โดยสาเหตุที่ทำให้ราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มตกต่ำเป็นเพราะขณะนี้มีปริมาณผลผลิตหมูออกสู่ตลาดจำนวนมาก เนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝน อากาศเย็น ทำให้ลูกหมูโตเร็ว ประกอบกับ เป็นช่วงเทศกาลกินเจที่ความต้องการบริโภคในประเทศลดลง และหากสถานการณ์ราคาหมูเป็นยังคงตกต่ำอยู่อย่างนี้ต่อไปผู้เลี้ยงคงจะลดปริมาณการเลี้ยง และหยุดการเลี้ยงชั่วคราว ซึ่งจะทำให้ปริมาณหมูลดลง และจะทำให้ราคาหมูกลับมาแพงขึ้นอีกภายใน 6 เดือนข้างหน้า โดยล่าสุดกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรเริ่มลดปริมาณการเลี้ยงแล้ว
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมฯ ทำการศึกษาผลดีผลเสียของการยกเลิกการออกประกาศราคาแนะนำสินค้าหมูเป็นการชั่วคราว โดยให้ประเมินว่าหากมีการยกเลิกราคาแนะนำเนื้อหมูแล้วจะส่งผลกระทบต่อราคาหมูทั้งระบบหรือไม่อย่างไร หรือหากปล่อยให้หมูเป็นมีการขยับราคาขึ้นลงได้ตามต้นทุนที่แท้จริงจะส่งผลกระทบต่อราคาเนื้อหมูหน้าเขียงอย่างไร ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็จะนำเสนอให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ มาตรการในการยกเลิกราคาแนะนำเนื้อหมูเป็นการชั่วคราวเพื่อช่วยเหลือผู้เลี้ยงหมูที่ประสบภาวะขาดทุนจากราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มตกต่ำหนัก ซึ่งหากยกเลิกราคาแนะนำไว้ก่อนจะทำให้ผู้เลี้ยงหมูสามารถขยับราคาขึ้นลงตามกลไกตลาดได้สะดวกขึ้นเพื่อลดภาระการขาดทุน
“ขณะนี้ราคาหมูหน้าเขียงกำหนดให้ขยับขึ้นตามต้นทุนหมูเป็นหน้าฟาร์ม โดยจะมีสูตรคำนวณการปรับราคาไว้เป็นช่วงๆ เพื่อไม่ให้มีการปรับขึ้นราคาเกินกว่าต้นทุนที่เป็นจริง โดยขณะนี้ราคาหมูหน้าเขียง (สะโพก ไหล่) ส่วนใหญ่อยู่ที่ กก.ละ 90 กว่าบาท ซึ่งหากหมูเป็นราคาเพิ่มขึ้น ราคาหน้าเขียงก็จะมีการขยับขึ้นเล็กน้อย คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากนัก” น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าว
สำหรับราคาแนะนำหมูทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 15-22 ต.ค. 2555 ราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า กก.ละ 48-54 บาท ราคาหมูซีกไม่ต่ำกว่า กก.ละ 59-65 บาท หมูเนื้อแดง (เนื้อสะโพก เนื้อไหล่) ราคาไม่ต่ำกว่า กก.ละ 83-91 บาท ส่วนราคาขายปลีกหมูเนื้อแดงราคาไม่ต่ำกว่า กก.ละ 98-106 บาท
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า การออกมาตรการดูแลกลุ่มผู้เลี้ยงหมูเกิดขึ้นหลังจากที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเตรียมยื่นหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์เพื่อขอปรับขึ้นราคาแนะนำหมูเป็นหน้าฟาร์ม กก.ละ 5 บาทในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหมูหน้าเขียงปรับขึ้นมา กก.ละ 10 บาท เนื่องจากผู้เลี้ยงหมูได้รับผลกระทบจากราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มปรับลดลงมาก โดยราคาแนะนำสัปดาห์นี้อยู่ที่เพียง กก.ละ 48 บาทเท่านั้น แม้จะเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่ กก.ละ 2 บาท แต่ยังทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงขาดทุนมาก ซึ่งราคาดังกล่าวลดลงจากช่วงเดือน มิ.ย.อยู่ที่ กก.ละ 60-62 บาท และมาต่ำสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ กก.ละ 46 บาท
โดยสาเหตุที่ทำให้ราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มตกต่ำเป็นเพราะขณะนี้มีปริมาณผลผลิตหมูออกสู่ตลาดจำนวนมาก เนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝน อากาศเย็น ทำให้ลูกหมูโตเร็ว ประกอบกับ เป็นช่วงเทศกาลกินเจที่ความต้องการบริโภคในประเทศลดลง และหากสถานการณ์ราคาหมูเป็นยังคงตกต่ำอยู่อย่างนี้ต่อไปผู้เลี้ยงคงจะลดปริมาณการเลี้ยง และหยุดการเลี้ยงชั่วคราว ซึ่งจะทำให้ปริมาณหมูลดลง และจะทำให้ราคาหมูกลับมาแพงขึ้นอีกภายใน 6 เดือนข้างหน้า โดยล่าสุดกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรเริ่มลดปริมาณการเลี้ยงแล้ว
