xs
xsm
sm
md
lg

“สรจักร” ลุยงานด่วนเพิ่มรายได้ Q4/55 ปัดมีใบสั่งการเมืองนั่งดีดีการบินไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สรจักร” ทำงานวันแรกปรับกลยุทธ์ระยะสั้น ชู Thailand Branding ดึงอาหารและสินค้าไทยขึ้นเครื่องจุดขายสร้างความแตกต่างแข่งขัน และปรับราคาตั๋วให้ยืดหยุ่นและเพิ่มเที่ยวบินหวังเพิ่มรายได้ช่วง 3 เดือนให้ตัวเลขผลประกอบการปี 55 ออกมาดีที่สุด ส่วนอนาคตมั่นใจมีโอากาสมีกำไร เจาะตลาดจีน อินเดีย ใช้ไทยสมายล์แข่งตั๋วถูก ยันไม่มีใบสั่งการเมือง การบินไทยเป็นรัฐวิสาหกิจปลอดการเมืองยาก

นายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้เข้าทำงานในตำแหน่งดีดีการบินไทยวันที่ 9 ตุลาคมเป็นวันแรก หลังจากลงนามสัญญาจ้างเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยได้พูดคุยกับผู้บริหารและพนักงานโดยผ่านเสียงตามสายถึงแนวทางในการดำเนินงาน โดยภารกิจสำคัญระยะสั้นถึงสิ้นปี 2555 คือต้องหารายได้เพิ่มให้มากที่สุดจากการสร้างจุดขายเพื่อสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน เช่น การสร้าง Thailand Branding บนเครื่องบิน ปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ และปรับราคาค่าโดยสารให้มีความยืดหยุ่น การเพิ่มเที่ยวบิน เนื่องจากปัจจุบันอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ยที่ 78% ยังมีเหลือ 22% ที่จะสร้างรายได้เพิ่ม เชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะทำให้รายได้ไตรมาส 4/ 2555 ดีขึ้น และจะช่วยให้ตัวเลขผลประกอบการของปี 2555 น่าสนใจขึ้น

ทั้งนี้ การดำเนินงานในปี 2556 นั้นคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทยกำหนดให้นำเสนอแผนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 นี้ ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกับบอร์ดในวันที่ 12 ตุลาคมนี้เป็นครั้งแรกเพื่อกำหนดเป้าหมายการทำงานร่วมกัน ส่วนรายได้เพิ่มปีละ 6% นั้นยังไม่เคยพูด โดยหลังจากนี้จะหารือกับฝ่ายบริหารเพื่อดูตัวเลขต่างๆ ประกอบการทำแผน ส่วนผลดำเนินงานในปี 2555 นั้นไม่ทราบเพราะเพิ่งเข้ามาทำงานวันแรก โดยใน 3 เดือนที่เหลือของปีนี้จะพยายามสร้างรายได้เพิ่มให้ได้ ให้ดูปลายปีว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“สังคมไทยผูกติดตัวบุคคลเกินไป แม้ปีหน้าบริษัทจะมีกำไรขึ้นมา แต่ไม่ใช่สรจักรทำคนเดียว แต่เป็นเพราะทุกคนร่วมกันทำ เพราะการบินไทยคือประเทศไทย แต่ถ้าทำผิดพลาดผมก็ยอมรับ ขณะนี้การบินไทยเริ่มรับมอบเครื่องบิน ทั้ง A380, A330 และ 777 รวมถึงมีการปรับปรุงที่นั่งให้ดีขึ้น ดังนั้นเมื่อมีเครื่องบินดี เป็นการปรับคุณภาพบริการ หากทำให้ราคาค่าโดยสารยืดหยุ่นเพียงพอเพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละเส้นทาง และเพิ่มการจำหน่ายตั๋วโดยสารผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น จากไม่ถึง 5% เป็น 10% ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้มากขึ้น ผลประกอบการปีหน้ามีโอกาสดีขึ้นและมีโอกาสสูงในการทำกำไรในอนาคต” นายสรจักรกล่าว

สำหรับ Thailand Branding นั้นจะเป็นนำความเป็นไทย ทั้งอาหารไทย ผ้าไทย สินค้าโอทอป ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่มีความแตกต่างเป็นจุดขายบนเครื่องบิน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันกับสายการบินอื่นในภาวะที่ธุรกิจการบินประสบปัญหาทั่วโลก นอกจากนี้จะต้องใช้นวัตกรรมในการบริหารงานมากขึ้น และการแข่งขันมากขึ้น เช่น หาเทคโนโลยีเพื่อใช้ในการส่งเสริมการขายที่รวดเร็วขึ้นเพื่อตอบสนองตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ ใช้นวัตกรรมในการบริหารองค์กร ทำให้การทำงานสั้นลง และสร้างสรรค์ธุรกิจอื่นเพื่อหารายได้เพิ่มนอกจากการขายตั๋วอย่างเดียว เป็นต้น รวมถึงการทำให้เป็นองค์กรที่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ เพราะการบินไทยเป็นองค์กรขนาดใหญ่ มีอายุยาวนานอาจจะต้องมีการคิดนอกกรอบ ให้พนักงานมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น

“การให้บริการอาหารไทยบนเครื่องบินจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะอาหารไทยดีที่สุดอยู่แล้ว และสอดคล้องกับแนวคิดไทยซีเลกต์ของกระทรวงพาณิชย์ โดยคงจะต้องร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในการนำข้าวหอมมะลิ และสินค้าของศูนย์ศิลปาชีพไปจำหน่ายบนเครื่องบิน ซึ่งจะกลายเป็นจุดขายของการบินไทยได้”

ทั้งนี้ แม้ตลาดยุโรปจะมีปัญหาแต่ ตลาดภูมิภาคยังน่าสนใจ โดยเฉพาะในอาเซียนและเอเชียการเดินทางยังสูง เช่น จีน อินเดีย รัสเซีย และญี่ปุ่น เป็นตลาดที่ยังไม่อิ่มตัว สามารถขยายธุรกิจ และเที่ยวบินได้อีกมากหากวางกลยุทธ์ให้ถูกต้อง ซึ่งการบินไทยยังมีธุรกิจการบินไทยสมายล์ที่สามารถแข่งขันในราคาถูกได้ จึงไม่น่าเป็นห่วง

สำหรับกรณีที่ระบุว่ามีใบสั่งการเมืองให้นายสรจักรเป็นดีดีการบินไทยนั้น นายสรจักรกล่าวว่า ไม่เคยเห็นใบสั่งการเมือง ที่มาสมัครเพราะรักเครื่องบิน ก่อนหน้านี้ตอนเป็นประธานบอร์ด อสมท ยังคิดว่าจะสมัครกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท แต่เพราะรักการบินจึงมาสมัครดีดีการบินไทย ส่วนที่มองว่าการบินไทยมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องนี้ไม่มีไม่ได้เพราะการบินไทยเป็นรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และมีผู้แทนจากกระทรวงคมนาคมเข้ามาบริหารงาน หากไม่ต้องการให้มีการเมือง กระทรวงการคลังก็ต้องถอนหุ้นออกไปทั้งหมด รัฐวิสาหกิจเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการดูแลสาธารณูปโภค อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการเข้ามารับตำแหน่งหนักใจ เพราะเป็นบริษัทใหญ่ต้องใช้เวลาเรียนรู้งานอีกมาก






กำลังโหลดความคิดเห็น