xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ดบินไทยไฟเขียว “สรจักร” ดีดีคนใหม่ ยอมแก้สัญญาจ้างลูกเรือและภาคพื้นเลิกต่อรายปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สรจักร” ฉลุยนั่งดีดีการบินไทย บอร์ดเห็นชอบผลสรรหา คาดต่อรองเงินเดือนสรุปใน 2 อาทิตย์ เซ็นสัญญาจ้างทำงาน ต.ค.55 นี้ ขณะที่ยอมปรับสัญญาจ้างลูกเรือให้แค่อายุ 45 ปี ส่วนภาคพื้นถึง 60 ปี จากเดิมเป็นสัญญากำหนดระยะเวลาจ้างราย 2 ปี, 5 ปี แต่ตั้งเงื่อนไขโดยต้องผ่านเกณฑ์ประเมินทุกปี ส่วนผลดำเนินงาน ส.ค.ผู้โดยสารเพิ่มแต่ขนส่งสินค้าลดจากวิกฤตยูโรโซน

นายโชคชัย ปัญญายงค์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทย ที่มีนายอำพน กิตติอำพน เป็นประธานเมื่อวันที่ 14 กันยายน ว่าที่ประชุมเห็นชอบผลการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) ตามที่คณะกรรมการสรรหาฯ ที่มีนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน เสนอนายสรจักร เกษมสุวรรณ เป็นดีดีการบินไทยคนใหม่ โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นการเจรจาผลตอบแทนซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ และจะลงนามสัญญาจ้าง รวมถึงเงื่อนไขการประเมินผล ภายในเดือนตุลาคม 2555 และเริ่มทำงานทันที

“การประเมินผลการทำงานของนายสรจักรนั้นจะมี 3 หัวข้อหลัก ซึ่งบอร์ดเน้นว่าจะต้องมีความเป็นธรรม การประเมินผลจะต้องเป็นรูปธรรม จะไม่ใช้ความรู้สึกมาประเมินผล” นายโชคชัยกล่าว

สำหรับ นายสรจักร เกษมสุวรรณ ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานกรรมการบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เป็นผู้สมัครเข้ารับการสรรหารดีดีการบินไทย ที่ผ่านมาคุณสมบัติเพียงรายเดียวและเข้าสัมภาษณ์ โดยได้คะแนนผ่านเกณฑ์ไม่ต่ำกว่า 80% แล้วเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา และหลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนการพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ ตามที่กฎระเบียบกำหนด รวมถึงการพิจารณาต่อรองในเรื่องผลตอบแทน คาดว่านายสรจักรจะเข้าทำงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

บอร์ดลดกระแสประท้วง ยอมปรับสัญญาจ้างลูกเรือ

ส่วนกรณีที่พนักงานฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น (DK) ฝ่ายบริการอุปกรณ์ภาคพื้น (D2) และฝ่ายบริการบนเครื่องบิน (DQ) (ลูกเรือ) สัญญาจ้างราย 2 ปี 4 ปี และ 5 ปี เรียกร้องให้บริษัทยกเลิกสัญญาจ้างพนักงานที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้าง 2 ปี 4 ปี และ 5 ปี โดยมิได้กำหนดเกษียณ ให้เป็นพนักงานเกษียณอายุที่ 60 ปีนั้น นายโชคชัยกล่าวว่า ในส่วนของลูกเรือนั้นมี 3 กลุ่ม 1. กลุ่มเดิมที่เกษียณอายุ 60 ปี 2. กลุ่มสัญญาจ้างตามระยะเวลา 2 ปี ,5 ปี 3. กลุ่มที่สัญญาถึงอายุ 45 ปี ที่ประชุมบอร์ดได้เห็นชอบในหลักการให้ปรับสัญญาราย 5 ปี เป็น 45 ปี หลังจากนั้นจะประเมินผลการทำงานและต่อสัญญาปีต่อปี ซึ่งสามารถต่อสัญญาได้ถึงอายุ 60 ปี ส่วนฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น และ ฝ่ายบริการอุปกรณ์ภาคพื้นนั้นจะมีสัญญาถึง 60 ปี โดยประเมินการทำงานปีต่อปี

ทั้งนี้ บอร์ดและฝ่ายบริหารได้พิจารณาว่ามาตรฐานการบริการและความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญของธุรกิจของการบิน ซึ่งลูกเรือที่ให้บริการผู้โดยสารจะส่งผลถึงความมั่นใจในการบริการที่ได้มาตรฐาน โดยที่ผ่านมาการคัดเลือกพนักงานจะมีกติกาที่เข้มข้น และมีเกณฑ์ประเมิน ถ้าผ่านการจะได้รับการต่อสัญญา โดยพนักงานแต่ละกลุ่มจะมีเกณฑ์การประเมินตามลักษณะงานและความถนัดที่แตกต่างกัน

นายโชคชัยกล่าวว่า การปรับสัญญาพนักงานดังกล่าวมีผลกระทบต่อต้นทุนของบริษัทแต่ถือเป็นต้นทุนปกติที่เพิ่มขึ้นตามการว่าจ้างพนักงานที่มีอายุงานมากก็จะมีเงินเดือนสูงขึ้น โดยหลังจากนี้จะต้องกำหนดเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจนก่อน จึงจะปรับสัญญาจ้างกับพนักงานได้ โดยยืนยันว่า สัญญาลูกเรือที่ 45 ปีนั้นถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมายแรงงาน โดยมีลูกเรือในส่วนนี้ประมาณ 1,580 คน จากลูกเรือทั้งหมด 6,000 คน

ผลดำเนินงาน ส.ค.ผู้โดยสารเพิ่ม แต่ขนส่งสินค้าลดจากวิกฤตยูโร

นายโชคชัยกล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดรับทราบผลการดำเนินงานด้านการขนส่งประจำเดือนสิงหาคม 2555 โดยมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 78.8% สูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมี Cabin Factor เฉลี่ย 74.8% โดย Cabin Factor เพิ่มในทุกเส้นทาง ได้แก่เส้นทางภูมิภาคเพิ่มขึ้นจาก 73.8% เป็น 79.7% เส้นทางข้ามทวีปเพิ่มขึ้นจาก 74.9% เป็น 77.5% และเส้นทางในประเทศเพิ่มขึ้นจาก 80.7% เป็น 83.8 % ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 1.62 ล้านคนในเดือนสิงหาคมปี 2554 เป็น 1.78 ล้านคนในปีนี้ หรือเพิ่มขึ้น 9.8% ในขณะที่มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร ลดลงประมาณ 0.6% เนื่องจากมีการปรับการใช้เครื่องบินแสดงถึงการใช้เครื่องบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ลดต่ำกว่าปีก่อน 2.6% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และวิกฤติเศรษฐกิจยุโรป

ส่วนที่ท่าอากาศยานดอนเมืองจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบวันที่ 1 ตุลาคม 2555 โดยสายการบินแอร์เอเชียจะย้ายไปให้บริการนั้น นายโชคชัยกล่าวว่า เชื่อว่าหลังจากเดือนตุลาคม ความคล่องตัวของงการต่อเครื่องบินจะดีขึ้น ซึ่งการบินไทยใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นฐานการบิน จะทำให้การต่อสู้และการแข่งขันทางการตลาดของการบินไทยดีขึ้นแน่นอน โดยจะมีการปรับตารางการบินใหม่ให้เหมาะสมและสะดวกสำหรับผู้โดยสารต่อเครื่องที่จะใช้เวลาสั้นที่สุดประมาณ 45-55 นาที จากเดิมที่สนามบินมีความแออัดทำให้เที่ยวบินล่าช้าและการต่อเครื่องใช้เวลานาน โดยในปี 2556 มีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนที่นั่งต่อกิโลเมตรให้ได้ 10% เนื่องจากจะมีการรับมอบเครื่องบินแอร์บัส A 380 ขนาด 507 ที่นั่ง มาให้บริการ
กำลังโหลดความคิดเห็น