ผู้เชี่ยวชาญพลังงานคาดโค้งสุดท้ายปี 55 น้ำมันดิบโลกทรงตัว แนวโน้มยังไม่ขยับไปไกลเนื่องจาก ศก.สหรัฐฯ-ยุโรปยังไม่ฟื้น และมีปริมาณน้ำมันดิบเกิน ด้านราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ เบนซิน-โซฮอล์ ปรับขึ้นเงียบ 60 สตางค์ ดีเซลคงเดิม
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าน้ำมันโลกจะทรงตัวจากเดือนกันยายน 2555 โดยประเมินว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะแกว่งตัวในกรอบ 105-112 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เทกซัสแกว่งตัว 90-95 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ในกรอบ 105-115 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าสถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหภาพยุโรป (EU) และมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE) จะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา และยุโรปที่ยังไม่ฟื้นตัว และปริมาณน้ำมันที่มีมากกว่าความต้องการ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาน้ำมันดิบโลกไม่ให้ปรับสูงขึ้นมากนัก
รายงานข่าวเพิ่มเติม ระบุว่า เมื่อวานนี้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันในกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์อีก 60 สตางค์ต่อลิตร ส่วนแก๊สโซฮอล์ อี85 ปรับขึ้น 30 สตางค์ต่อลิตร ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลยังเป็นราคาเดิมไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ลิตรละ 29.79 บาท
ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า ราคาน้ำมันดิบจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบเดิม เนื่องจากตลาดกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงต่อเนื่อง ขณะที่สถานการณ์หนี้ยุโรปโดยเฉพาะในสเปนและกรีซยังไม่คลี่คลาย นอกจากนี้ ยังต้องติดตามดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐ ยุโรป และจีน การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ และการประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรป