xs
xsm
sm
md
lg

“น้องน้ำ” มาอีกแล้ว “ปตท.” สั่งปั๊มพื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อม แนะใช้บทเรียนปี 54 รับมือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ซีอีโอ “ปตท.” สั่งปั๊มน้ำมันในพื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม โดยใช้บทเรียนในปี 54 เชื่อสถานการณ์คราวนี้ รบ.ปูเอาอยู่ แต่ห้ามประมาท ขณะที่ กปน.สั่งเสริมคันดิน และเตรียมสารเคมีปรับปรุงคุณภาพน้ำ รวมถึงคลอรีนสำหรับฆ่าเชื้อโรค

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.ได้สั่งการให้สถานีบริการน้ำมันในจังหวัดที่มีความเสี่ยงอาจจะถูกน้ำท่วม เช่น พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ สุโขทัย ให้เตรียมการรองรับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้น โดยใช้บทเรียนจากน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เชื่อว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสามารถดูแลสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ได้ และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีสถานีบริการน้ำมันถูกน้ำท่วม โดยทุกหน่วยงานเตรียมการมากเรื่องน้ำ และสถานการณ์น้ำในเขื่อนอยู่ประมาณร้อยละ 50-60 ยังไม่น่าหนักใจ แต่ทาง ปตท.ก็มีคำแนะนำว่าหากน้ำท่วมจะปฏิบัติอย่างไร

นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า จากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ทางกรมเจ้าท่าได้มีมาตรการ หรือระเบียบที่เข้มงวดในเรื่องของความปลอดภัยอยู่แล้ว รวมทั้งที่มีการกำชับเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ดูแลเรื่องของความปลอดภัย นอกจากนี้ยังได้มีการขอความร่วมมือผู้ประกอบการเดินเรือ ทั้งการขนส่งสินค้าและการบริการประชาชน ให้เพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้เพิ่มระดับสูงขึ้น

ด้านนายเชาวรินทร์ กิ่งแก้ว ผู้ช่วยผู้ว่าการการประปานครหลวง ด้านแหล่งน้ำและคุณภาพน้ำ (กปน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การประปาได้ติดตามข้อมูลปริมาณน้ำฝน น้ำท่า และน้ำเขื่อน ตลอดเวลา โดยเฉพาะขณะนี้เกิดน้ำหลากในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือและภาคกลาง และกำลังไหลลงสู่ภาคกลาง ส่งผลให้การระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาปรับสูงขึ้นเป็น 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อช่วยระบายน้ำจากภาคเหนือลดการเกิดอุทกภัย

โดยจุดเฝ้าระวังที่สำคัญคือ หากปริมาณการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาสูงถึง 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะเปิดศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำดิบทันที โดยระดมผู้บริหารและผู้ปฏิบัติการทุกระดับร่วมวางแผนรับมืออุทกภัยเพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อการผลิตและบริการน้ำประปาให้ชาวกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ กว่า 10 ล้านคน และจากการติดตามคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา จากการประปาพยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ หนึ่งในเครือข่ายเฝ้าระวังคุณภาพน้ำของ กปน. พบว่าความขุ่นของน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่วนคุณภาพน้ำด้านอื่นยังอยู่ในเกณฑ์ปกติของฤดูฝน

“จากข้อมูลดังกล่าว กปน.จึงได้จัดเตรียมสารเคมีสำหรับการปรับปรุงคุณภาพน้ำดิบเพื่อเร่งการตกตะกอน คือ โพลีอะลูมิเนียมคลอไรด์ (PAC) และคลอรีนสำหรับฆ่าเชื้อโรค รวมทั้งเตรียมปรับระบบการผลิตน้ำประปาให้เหมาะสมกับภาวะน้ำหลาก”

สำหรับแนวป้องกันน้ำท่วมของ กปน. ได้เสริมแนวคันดินและคอนกรีตบริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแล จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นจุดรับน้ำเพื่อการผลิตน้ำประปา ส่วนคลองประปาบริเวณท่อลอดคลองรังสิต กปน. ได้ปรับปรุงประตูน้ำ (Stop log) เพื่อให้สามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น มีการเสริมความสูงของผนังคอนกรีตสูงกว่าระดับน้ำท่วมปีก่อน และตลอดแนวคลองประปาฝั่งตะวันออก ระยะทาง 30 กิโลเมตร มีการเสริมความสูงแนวคันดินสูงกว่าระดับน้ำท่วมปีก่อนเช่นกัน นอกจากนี้ได้เสริมความแข็งแรงของแนวคลองด้วยการจัดทำผนังคอนกรีตถาวร ตั้งแต่โรงงานผลิตน้ำบางเขนถึงหลังสวนอุตสาหกรรมบางกะดี และยกระดับถนนเลียบคลองประปาตั้งแต่ถนนบางพูน-รังสิต ถึงสถานีสูบน้ำดิบสำแล


กำลังโหลดความคิดเห็น