เร่งกู้รถไฟขบวนบัตเตอร์เวอร์ธตกรางขวางเส้นทางสายใต้ไปได้แค่พัทลุง และต้องใช้รถบัสขนถ่ายช่วงพัทลุง-ทุ่งสง “ชัจจ์” สั่งหาสาเหตุ ทั้งรางเก่าและความผิดพลาดในการสับราง กำชับผู้บริหาร ร.ฟ.ท.เข้มงวดมาตรการ ชี้ช่วยลดอุบัติเหตุได้มากช่วงที่ผ่านมา
เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) เวลา 20.35 น.ได้เกิดเหตุขบวนรถด่วนพิเศษที่ 36 (บัตเตอร์เวอร์ธ-กรุงเทพฯ) ตกรางช่วงสถานีควนเคี่ยม จ.พัทลุง โดยมีรถพ่วงตกรางจำนวน 6 โบกี้ ห่างจากสถานีควนเคี่ยมประมาณ 200 เมตร ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แจ้งว่าได้ขนถ่ายผู้โดยสารที่ตกค้างเรียบร้อยแล้ว โดยศูนย์ซ่อมบำรุงทาง ชุมทางหาดใหญ่กำลังระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรเร่งกู้ตู้รถไฟเพื่อให้พ้นออกจากราง เพื่อเร่งปิดเส้นทางให้ขบวนรถสายใต้สามารถเดินรถให้บริการได้ตามปกติให้เร็วที่สุด
โดยเหตุดังกล่าวทำให้การเดินรถไฟสายใต้จากกรุงเทพฯ วิ่งได้ถึงสถานีพัทลุงเท่านั้น ประกอบด้วยขบวนรถด่วนพิเศษ 41 กรุงเทพฯ-ยะลา เดินขบวนรถถึงสถานีพัทลุง, ขบวนรถด่วนพิเศษ 35 กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ เดินขบวนรถถึงสถานีพัทลุง, ขบวนรถพิเศษ 37 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก เดินขบวนรถถึงสถานีทุ่งสง, ขบวนรถเร็ว 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก เดินขบวนรถถึงสถานีพัทลุง, ขบวนรถเร็ว 169 กรุงเทพฯ-ยะลา เดินขบวนรถถึงสถานีพัทลุง
ทั้งนี้ ในขณะที่เส้นทางอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุงนั้น การเดินรถจากพัทลุง-ทุ่งสง จะใช้รถบัสขนถ่ายผู้โดยสาร และช่วงทุ่งสง-3 จังหวัดชายแดนใต้ ใช้รถไฟอีกทอดหนึ่ง
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับทราบเหตุรถไฟตกรางแล้ว ซึ่งจะต้องตรวจสอบสาเหตุว่าเกิดจากปัญหาสภาพรางเก่าหรือความผิดพลาดในการสับรางเพราะเกิดเหตุช่วงรถไฟวิ่งผ่านสถานี อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ผู้บริหาร ร.ฟ.ท.กวดขันมาตรการที่เคยให้นโยบายไปก่อนหน้านี้อย่างเข้มงวดเนื่องจากช่วยลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุรถไฟตกรางลงได้อย่างมากนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา จนกระทั่งมาเกิดเหตุครั้งนี้
เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) เวลา 20.35 น.ได้เกิดเหตุขบวนรถด่วนพิเศษที่ 36 (บัตเตอร์เวอร์ธ-กรุงเทพฯ) ตกรางช่วงสถานีควนเคี่ยม จ.พัทลุง โดยมีรถพ่วงตกรางจำนวน 6 โบกี้ ห่างจากสถานีควนเคี่ยมประมาณ 200 เมตร ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แจ้งว่าได้ขนถ่ายผู้โดยสารที่ตกค้างเรียบร้อยแล้ว โดยศูนย์ซ่อมบำรุงทาง ชุมทางหาดใหญ่กำลังระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรเร่งกู้ตู้รถไฟเพื่อให้พ้นออกจากราง เพื่อเร่งปิดเส้นทางให้ขบวนรถสายใต้สามารถเดินรถให้บริการได้ตามปกติให้เร็วที่สุด
โดยเหตุดังกล่าวทำให้การเดินรถไฟสายใต้จากกรุงเทพฯ วิ่งได้ถึงสถานีพัทลุงเท่านั้น ประกอบด้วยขบวนรถด่วนพิเศษ 41 กรุงเทพฯ-ยะลา เดินขบวนรถถึงสถานีพัทลุง, ขบวนรถด่วนพิเศษ 35 กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ เดินขบวนรถถึงสถานีพัทลุง, ขบวนรถพิเศษ 37 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก เดินขบวนรถถึงสถานีทุ่งสง, ขบวนรถเร็ว 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก เดินขบวนรถถึงสถานีพัทลุง, ขบวนรถเร็ว 169 กรุงเทพฯ-ยะลา เดินขบวนรถถึงสถานีพัทลุง
ทั้งนี้ ในขณะที่เส้นทางอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุงนั้น การเดินรถจากพัทลุง-ทุ่งสง จะใช้รถบัสขนถ่ายผู้โดยสาร และช่วงทุ่งสง-3 จังหวัดชายแดนใต้ ใช้รถไฟอีกทอดหนึ่ง
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับทราบเหตุรถไฟตกรางแล้ว ซึ่งจะต้องตรวจสอบสาเหตุว่าเกิดจากปัญหาสภาพรางเก่าหรือความผิดพลาดในการสับรางเพราะเกิดเหตุช่วงรถไฟวิ่งผ่านสถานี อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ผู้บริหาร ร.ฟ.ท.กวดขันมาตรการที่เคยให้นโยบายไปก่อนหน้านี้อย่างเข้มงวดเนื่องจากช่วยลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุรถไฟตกรางลงได้อย่างมากนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา จนกระทั่งมาเกิดเหตุครั้งนี้
