“บิ๊ก ปตท.” เสนอรัฐบาลเร่งหารือแบงก์ชาติเคาะใช้ทุนสำรองฯ ลงทุนสร้างคลังน้ำมันทางยุทธศาสตร์ของประเทศ ยอมรับการลงทุนขนาดแสนล้าน เอกชนรับภาระไม่ไหวแน่
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวว่า นโยบายการเพิ่มสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ซึ่งต้องสร้างคลังน้ำมันเพิ่มขึ้น แต่ต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก ดังนั้นรัฐบาลควรหาวิธีการลงทุน โดยอาจหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เนื่องจากมีเงินสำรองจำนวนมาก
“การสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก ซึ่งเกินความสามารถของภาคเอกชน ดังนั้นรัฐคงต้องหาวิธีการในการลงทุนโครงการดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้อาจต้องไปหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งปัจจุบันมีการสำรองเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ ก็อาจจะเก็บสำรองเป็นทรัพย์สินอื่น เช่น พลังงานเหมือนในหลายๆ ประเทศ เป็นต้น” นายไพรินทร์กล่าว
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบให้หาแนวทางการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงทางยุทธศาสตร์ของประเทศ โดยเห็นว่าประเทศไทยในฐานะประเทศผู้นำเข้าน้ำมันกว่า 80% จะต้องสำรองน้ำมัน และตามมาตรฐานองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency : IEA) จะต้องสำรองอย่างน้อย 90 วัน โดยรัฐบาลให้ ปตท.ไปศึกษารายละเอียด
การสำรองน้ำมันจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น 2 ส่วนจากการก่อสร้างคลังน้ำมัน และการซื้อน้ำมันเพื่อมาสำรอง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก หรือประมาณ 5,000-6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการสร้างคลังสำรองน้ำมันนี้รัฐบาลควรจะตั้งหน่วยงานของรัฐเข้ามาดูแล เพราะหากให้เอกชนเข้ามาดำเนินงานทั้งหมดจะมีความเสี่ยงขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันสูงมาก ส่วนภาคเอกชนนั้นทำได้เพียงสำรองเพิ่มจาก 5% เป็น 6% เท่านั้น ซึ่งการเพิ่มในสัดส่วนนี้ก็ทำให้มีต้นทุนเพิ่มประมาณ 7-10 สตางค์ต่อลิตร
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.กล่าวอีกว่า การสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์มีจุดประสงค์หลักเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ประเทศ โดยไม่ใช่ทำกำไรจากน้ำมัน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวจำเป็นต้องก่อสร้างคลังน้ำมันเพิ่ม ซึ่งควรจะอยู่ในทำเลใกล้โรงกลั่นน้ำมันจึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด โดยเห็นว่าพื้นที่ที่มีศักยภาพในการสร้างน่าจะเป็นที่จังหวัดระยอง หรือพื้นที่ของรัฐ เช่น ฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นต้น ทั้งนี้ การสำรองทางยุทธศาสตร์ดังกล่าวอาจเก็บสำรองร่วมกันของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนเพื่อความมั่นคงของภูมิภาคในภาพรวม