ตลาดอาหารเสริมสำหรับเด็กคึกคัก น้องใหม่ “พีชชี่” ลั่นเขย่าบัลลังก์เนสท์เล่ ซีรีแล็ค หวังขึ้นเป็นผู้นำแทนใน 3 ปีหลังพบตลาดนิ่ง มีสินค้าให้เลือกน้อย ทุ่ม 10 ล้านบาทสร้างแกร่ง มั่นใจถึงสิ้นปียอดขายร่วม 1 ล้านถุง คิดเป็นรายได้กว่า 55 ล้านบาท
นายเจมี่ โรแลนด์-โจนส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีชชี่ วิลเล็จ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมพร้อมรับประทานสำหรับทารกและเด็กเล็ก ภายใต้แบรนด์ พีชชี่ (Peachy) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอาหารเสริมสำหรับทารกและเด็กเล็กในประเทศไทยมูลค่า 700 ล้านบาทค่อนข้างนิ่ง ไม่ค่อยมีนวัตกรรมใหม่ๆ อีกทั้งมีผู้เล่นในตลาดเพียง 3-4 แบรนด์เท่านั้น โดยปัจจุบันมีเนสท์เล่ ซีรีแล็ค เป็นผู้นำตลาดอยู่
ล่าสุดทางบริษัทมองเห็นโอกาส จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ พีชชี่ ขึ้นมาในรูปแบบผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับทารกและเด็กเล็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 3 ขวบ ในรูปแบบเปียก (Wet baby Food) พร้อมรับประทาน ด้วยนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์แบบถุงเพาช์ทันสมัย จำหน่ายในราคา 55 บาทต่อถุง รวม 5 สูตร คือ แอปเปิลผสมน้ำผักโขมและมันเทศบด, แอปเปิลผสมมะม่วงและกล้วยน้ำหว้าบด, ฟักทองผสมนมข้าวโพดและมันฝรั่งบด, มะม่วงน้ำดอกไม้ผสมมันเทศและแครอทบด และกล้วยน้ำว้าผสมแคนตาลูปและมันฝรั่งบด เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายระดับพรีเมียม
ในช่วง 1 ปีแรกนี้ นับจากครึ่งปีหลังนี้ไปจนถึงครึ่งปีแรกในปีหน้าบริษัทพร้อมใช้งบการตลาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทเน้นสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และทำกิจกรรมสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ การสร้างแบรนด์บนสื่อออนไลน์ กับโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างเฟซบุ๊ก ซึ่งได้เริ่มวางจำหน่ายแล้ว 2 เดือนที่ผ่านมา ในช่องทางโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศเป็นหลัก ทั้ง เทสโก้ โลตัส, ท็อปส์, เดอะมอลล์, วิลล่า มาร์เก็ต, ฟู้ดแลนด์ เป็นต้น พบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ทั้งนี้มั่นใจว่าถึงสิ้นปีนี้จะจำหน่ายได้กว่า 1 ล้านถุง หรือคิดเป็นรายได้กว่า 55 ล้านบาท ทั้งนี้ มั่นใจว่าภายใน 3 ปีจะก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในตลาดนี้ได้ โดยแผนในปีหน้ายังเตรียมส่งออกไปยังประเทศในอาเซียน อย่างมาเลเซีย และฟิลิปปินส์ด้วย เนื่องจากพบว่ามีไลฟ์สไตล์ของการเลี้ยงลูกใกล้เคียงกัน
อย่างไรก็ตาม พีชชี่ได้ให้บริษัท ศรีเชียงใหม่อุตสาหกรรม จำกัด เป็นผู้ผลิตสินค้าให้ ซึ่งทางศรีเชียงใหม่ได้ทุ่มงบกว่า 35 ล้านบาทลงทุนเครื่องจักรเพิ่มสำหรับผลิตไลน์สินค้าดังกล่าว โดยสามารถรองรับการผลิตสินค้าได้ปีละกว่า 2 ล้านถุง จากจำนวนคอนแทรกต์ฟาร์มมิ่งที่มีกว่า 4,000 ครัวเรือน
