กบง.มีมติลดเก็บเงินเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ 50 สตางค์/ลิตร ยกเว้น E85 พร้อมอุดหนุนดีเซล 60 สตางค์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนและผู้ประกอบการที่อาจได้รับจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันนี้ โดยระบุว่าที่ประชุมฯ มีมติปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงในกลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ 50 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้น E 85 ส่วนดีเซลได้รับการอุดหนุนเพิ่ม 60 สตางค์ต่อลิตร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนและผู้ประกอบการที่อาจได้รับจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
นายอารักษ์กล่าวเสริมว่า มติดังกล่าวส่งผลทำให้น้ำมันเบนซิน 95 เดิมเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ จาก 6.50 บาทต่อลิตร เหลือ 6 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 เดิมเก็บ 5.20 บาทต่อลิตร ลดเหลือ 4.70 บาทต่อลิตร ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เดิมเก็บ 1.30 บาทต่อลิตร เหลือ 0.80 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 เดิมได้รับการสนับสนุนจากกองทุนฯ 1 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 1.50 บาทต่อลิตร และ E20 เดิมได้รับสนับสนุน 1.30 บาทต่อลิตร เป็น 1.80 บาทต่อลิตร ส่วน E 85 สนับสนุนคงเดิมที่ 12.70 บาทต่อลิตร
สำหรับน้ำมันดีเซลเดิมมีอัตราจัดเก็บเข้ากองทุนน้ำมันฯ เป็น 0 บาทต่อลิตร จะได้รับการสนับสนุนจากกองทุนน้ำมันฯ เพิ่มเป็น 0.60 บาทต่อลิตร ซึ่งการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนและผู้ประกอบการที่อาจได้รับจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับลดลง จากเดิมติดลบ 37 ล้านบาทต่อวัน เป็นติดลบ 79 ล้านบาทต่อวัน สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 12 สิงหาคม 2555 มีฐานะสุทธิติดลบ 14,430 ล้านบาท
