กรมการค้าต่างประเทศจับมือ จ.ตรังนำผู้ประกอบการยางพารา ไม้ยางแปรรูป และปาล์มน้ำมันบุกเปิดตลาดในพม่า เผยพม่าเปิดสัมปทานให้เช่าพื้นที่ทำเกษตรกรรมนับล้านไร่ แนะเป็นโอกาสดีของนักลงทุนไทย
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้กรมฯ ได้นำผู้ประกอบการยางพารา ไม้เฟอร์นิเจอร์ยางแปรรูป และปาล์มน้ำมัน จากจ.ตรัง จำนวน 12 ราย เดินทางไปเจรจาเปิดตลาดใน 3 เมืองเศรษฐกิจใหญ่ของพม่า ได้แก่ ย่างกุ้ง ทวาย และมะริด โดยมีนายธีรยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง เดินทางร่วมคณะไปด้วย ซึ่งผลการเจรจาประสบผลสำเร็จน่าพอใจ โดยที่เมืองมะริด ได้มีการทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง รองประธานหอการค้า และอุตสาหกรรมเมืองมะริดร่วมลงนาม เพื่อให้เกิดความร่วมมือ 3 ด้าน ประกอบด้วย การแลกเปลี่ยนข้อมูลและคณะผู้แทนการค้า ความร่วมมือเพื่อพัฒนาด้านการเกษตรและการเพาะปลูก และการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ประมง และอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ในการเดินทางไปทางการพม่าได้แจ้งว่าได้เปิดสัมปทานให้นักลงทุนจากต่างประเทศเข้าไปเช่าพื้นที่ปลูกพืชทางการเกษตรได้นับล้านไร่ในบริเวณเขตพื้นที่ย่านตะนาวศรี โดยคณะได้มีโอกาสหารือร่วมกับภาครัฐและเอกชนในรายละเอียด โดยเฉพาะขั้นตอนและเงื่อนไขต่างๆ ที่ทางการพม่าได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ รวมถึงระเบียบการนำสินค้าที่ผลิตได้ออกนอกประเทศ
ขณะเดียวกัน ได้รับแจ้งจากพม่าว่ามีความต้องการวัตถุดิบปาล์มน้ำมัน แต่ยังขาดเทคโนโลยีด้านการแปรรูปเป็นสินค้าน้ำมันสำเร็จรูป รวมทั้งการพัฒนาผลิตสินค้าเฟอร์นิเจอร์ร่วมกัน
“เป็นโอกาสที่นักลงทุนไทยจะเข้าไปลงทุน โดยเฉพาะยางพารา และปาล์มน้ำมัน เพราะพื้นที่ที่พม่าเปิดให้เข้าไปเช่าลงทุนมีภูมิอากาศที่เหมาะสม และสินค้าเกษตรทั้ง 2 ชนิดยังเป็นที่ต้องการของตลาดโลก และราคามีแต่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงไทยยังมีโอกาสขยายความร่วมมือการลงทุนในด้านอื่นๆ ที่พม่าต้องการได้เพิ่มขึ้นด้วย” น.ส.ผ่องพรรณกล่าว
สำหรับการเดินทางไปในครั้งนี้ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานในส่วนกลางกับส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมในการใช้ประโยชน์จากการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้กรมฯ ได้นำผู้ประกอบการยางพารา ไม้เฟอร์นิเจอร์ยางแปรรูป และปาล์มน้ำมัน จากจ.ตรัง จำนวน 12 ราย เดินทางไปเจรจาเปิดตลาดใน 3 เมืองเศรษฐกิจใหญ่ของพม่า ได้แก่ ย่างกุ้ง ทวาย และมะริด โดยมีนายธีรยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง เดินทางร่วมคณะไปด้วย ซึ่งผลการเจรจาประสบผลสำเร็จน่าพอใจ โดยที่เมืองมะริด ได้มีการทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง รองประธานหอการค้า และอุตสาหกรรมเมืองมะริดร่วมลงนาม เพื่อให้เกิดความร่วมมือ 3 ด้าน ประกอบด้วย การแลกเปลี่ยนข้อมูลและคณะผู้แทนการค้า ความร่วมมือเพื่อพัฒนาด้านการเกษตรและการเพาะปลูก และการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ประมง และอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ในการเดินทางไปทางการพม่าได้แจ้งว่าได้เปิดสัมปทานให้นักลงทุนจากต่างประเทศเข้าไปเช่าพื้นที่ปลูกพืชทางการเกษตรได้นับล้านไร่ในบริเวณเขตพื้นที่ย่านตะนาวศรี โดยคณะได้มีโอกาสหารือร่วมกับภาครัฐและเอกชนในรายละเอียด โดยเฉพาะขั้นตอนและเงื่อนไขต่างๆ ที่ทางการพม่าได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ รวมถึงระเบียบการนำสินค้าที่ผลิตได้ออกนอกประเทศ
ขณะเดียวกัน ได้รับแจ้งจากพม่าว่ามีความต้องการวัตถุดิบปาล์มน้ำมัน แต่ยังขาดเทคโนโลยีด้านการแปรรูปเป็นสินค้าน้ำมันสำเร็จรูป รวมทั้งการพัฒนาผลิตสินค้าเฟอร์นิเจอร์ร่วมกัน
“เป็นโอกาสที่นักลงทุนไทยจะเข้าไปลงทุน โดยเฉพาะยางพารา และปาล์มน้ำมัน เพราะพื้นที่ที่พม่าเปิดให้เข้าไปเช่าลงทุนมีภูมิอากาศที่เหมาะสม และสินค้าเกษตรทั้ง 2 ชนิดยังเป็นที่ต้องการของตลาดโลก และราคามีแต่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงไทยยังมีโอกาสขยายความร่วมมือการลงทุนในด้านอื่นๆ ที่พม่าต้องการได้เพิ่มขึ้นด้วย” น.ส.ผ่องพรรณกล่าว
สำหรับการเดินทางไปในครั้งนี้ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานในส่วนกลางกับส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมในการใช้ประโยชน์จากการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)