หนองคาย-กรมการค้าต่างประเทศ เตรียมความพร้อมผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกในจังหวัดหนองคาย รับมือเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ชี้ตลาดอาเซียนโตเร็วและมีศักยภาพสูง แนะผู้ประกอบการดึงจุดเด่นอาเซียนให้เกิดประโยชน์แก่ตลาดสินค้า
วันนี้ (17พ.ค.55) ที่ห้องประชุมทับทิม โรงแรมแกรนด์ พาราไดซ์ อ.เมือง จ.หนองคาย นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นประธานเปิดการสัมมนาเรื่อง “ถิ่นกำเนิดสินค้ากับโอกาสของสินค้าไทยในตลาดอาเซียน (AEC)” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานการค้าต่างประเทศ เขต 5 หนองคาย มีผู้ผลิต ผู้ส่งออก หน่วยงานภาครัฐ/เอกชน และนักศึกษาเข้าร่วมสัมมนากว่า 200 คน
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า อาเซียนเป็นตลาดเพื่อนบ้านขนาดใหญ่ และมีศักยภาพสูงต่อการทำการค้าและการลงทุน ในปี 2554 ที่ผ่านมา การค้าระหว่างไทยและอาเซียนมีมูลค่ารวม 91,223 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ร้อยละ 25.02 โดยมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 54,305 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมูลค่านำเข้า 36,919 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และไทยได้ดุลการค้ามาโดยตลอด
ขณะเดียวกันตลาดอาเซียนได้ทวีความสำคัญมากขึ้น และผลจากการที่ประเทศกลุ่มสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ได้กำหนดเป้าหมายในการรวมกลุ่มเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ภายในปี 2558 โดยจะเป็นการรวมตลาดเดียว ซึ่งจะมีฐานการผลิตร่วมกัน มีการเคลื่อนย้ายการบริการ การลงทุน แรงงานฝีมือ และเงินทุนระหว่างกันอย่างเสรีมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดอาเซียนเป็นตลาดที่ถูกจับตามองในเวทีโลก
สำหรับการสัมมนาครั้งนี้มุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโอกาสการค้าและการลงทุนในตลาดอาเซียน การใช้สิทธิประโยชน์จากถิ่นกำเนิดสินค้า ซึ่งจะทำให้การค้ามีความคล่องตัว ลดภาระค่าใช้จ่าย ลดขั้นตอนการทำเอกสารการส่งออก รับทราบถึงสถานการณ์ของสินค้าที่ทำการแอบอ้างถิ่นกำเนิดเพื่อสวมสิทธิการค้าของไทยโดยผู้ประกอบการจะต้องขึ้นทะเบียนสินค้ากับกรมการค้าต่างประเทศเสียก่อน
วันนี้ (17พ.ค.55) ที่ห้องประชุมทับทิม โรงแรมแกรนด์ พาราไดซ์ อ.เมือง จ.หนองคาย นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นประธานเปิดการสัมมนาเรื่อง “ถิ่นกำเนิดสินค้ากับโอกาสของสินค้าไทยในตลาดอาเซียน (AEC)” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานการค้าต่างประเทศ เขต 5 หนองคาย มีผู้ผลิต ผู้ส่งออก หน่วยงานภาครัฐ/เอกชน และนักศึกษาเข้าร่วมสัมมนากว่า 200 คน
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า อาเซียนเป็นตลาดเพื่อนบ้านขนาดใหญ่ และมีศักยภาพสูงต่อการทำการค้าและการลงทุน ในปี 2554 ที่ผ่านมา การค้าระหว่างไทยและอาเซียนมีมูลค่ารวม 91,223 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ร้อยละ 25.02 โดยมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 54,305 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมูลค่านำเข้า 36,919 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และไทยได้ดุลการค้ามาโดยตลอด
ขณะเดียวกันตลาดอาเซียนได้ทวีความสำคัญมากขึ้น และผลจากการที่ประเทศกลุ่มสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ได้กำหนดเป้าหมายในการรวมกลุ่มเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ภายในปี 2558 โดยจะเป็นการรวมตลาดเดียว ซึ่งจะมีฐานการผลิตร่วมกัน มีการเคลื่อนย้ายการบริการ การลงทุน แรงงานฝีมือ และเงินทุนระหว่างกันอย่างเสรีมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดอาเซียนเป็นตลาดที่ถูกจับตามองในเวทีโลก
สำหรับการสัมมนาครั้งนี้มุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโอกาสการค้าและการลงทุนในตลาดอาเซียน การใช้สิทธิประโยชน์จากถิ่นกำเนิดสินค้า ซึ่งจะทำให้การค้ามีความคล่องตัว ลดภาระค่าใช้จ่าย ลดขั้นตอนการทำเอกสารการส่งออก รับทราบถึงสถานการณ์ของสินค้าที่ทำการแอบอ้างถิ่นกำเนิดเพื่อสวมสิทธิการค้าของไทยโดยผู้ประกอบการจะต้องขึ้นทะเบียนสินค้ากับกรมการค้าต่างประเทศเสียก่อน
