“พาณิชย์” แก้ปัญหามะพร้าวราคาตกต่ำ ออกราคาแนะนำเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ บังคับให้พ่อค้าและโรงงานต้องรับซื้อตามราคาที่กำหนด ขู่ชง ครม.ขึ้นบัญชีควบคุม หากไม่ปฏิบัติตาม พร้อมเบรกนำเข้ามะพร้าวชั่วคราว
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ออกราคาแนะนำเนื้อมะพร้าวขาวและมะพร้าวผลเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาราคาตกต่ำ มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.เป็นต้นไป โดยราคาที่กำหนดจะสูงกว่าราคาทั่วไปเพื่อนำตลาด ประกอบด้วย ราคามะพร้าวที่โรงงานรับซื้อ สัปดาห์แรกวันที่ 7-12 ส.ค. 2555 เริ่มต้น กก.ละ 16 บาท และหลังจากนั้นจะเพิ่มราคาทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 บาท จนสูงสุดช่วงวันที่ 3 ก.ย. ที่ กก. 20 บาท ส่วนราคาเนื้อมะพร้าวขาวที่พ่อค้าคนกลาง (ล้ง) รับซื้อ สัปดาห์แรกวันที่ 7-12 ส.ค. เริ่มต้น กก. ละ 12 บาท และหลังจากนั้นเพิ่มราคาในทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 บาท จนสูงสุดช่วงวันที่ 3 ก.ย.ที่ กก.ละ 16 บาท ขณะที่ราคามะพร้าวผลที่พ่อค้าคนกลางรับซื้อ วันที่ 7-12 ส.ค. เริ่มต้นผลละ 4 บาท วันที่ 13-19 ส.ค. ที่ผลละ 4.33 บาท วันที่ 20-26 ส.ค.ที่ผลละ 4.67 บาท วันที่ 27 ส.ค.-2 ก.ย.ที่ผลละ 5 บาท และวันที่ 3 ก.ย.เป็นต้นไป ผลละ 5.33 บาท
ทั้งนี้ กรมฯ ยังได้ประชุมหารือร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรกร และโรงงานผลิตน้ำกะทิ เพื่อขอให้โรงงานผลิตน้ำกะทิ ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดมะพร้าว 35% ของผลผลิตทั้งหมด รับซื้อเนื้อมะพร้าวในราคาแนะนำเพื่อช่วยยกระดับราคาผลมะพร้าวสูงขึ้น เนื่องจากขณะนี้เกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวกำลังเดือดร้อนจากราคาผลผลิตตกต่ำ ขายได้เพียงผลละ 2-3 บาท ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตผลละ 6.19 บาท หลังจากปีนี้ผลผลิตจะมีมากกว่าปกติที่ออกมา 1 ล้านตัน ประกอบกับมีการนำเข้ามะพร้าวจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์เข้ามา แต่ไม่สามารถผลิตกะทิส่งออกได้ตามเป้าหมายเพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
“จะขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งระงับการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหาผลผลิตส่วนเกินล้นตลาด ขณะเดียวกัน จะตรวจสอบและติดตามผลอย่างใกล้ชิด หากพบว่าโรงงานยังไม่ปรับราคารับซื้อมะพร้าวให้เป็นไปตามข้อตกลง ก็จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้นำสินค้ามะพร้าวและผลิตภัณฑ์มะพร้าวขึ้นบัญชีสินค้าควบคุม” นายสันติชัยกล่าว
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ออกราคาแนะนำเนื้อมะพร้าวขาวและมะพร้าวผลเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาราคาตกต่ำ มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.เป็นต้นไป โดยราคาที่กำหนดจะสูงกว่าราคาทั่วไปเพื่อนำตลาด ประกอบด้วย ราคามะพร้าวที่โรงงานรับซื้อ สัปดาห์แรกวันที่ 7-12 ส.ค. 2555 เริ่มต้น กก.ละ 16 บาท และหลังจากนั้นจะเพิ่มราคาทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 บาท จนสูงสุดช่วงวันที่ 3 ก.ย. ที่ กก. 20 บาท ส่วนราคาเนื้อมะพร้าวขาวที่พ่อค้าคนกลาง (ล้ง) รับซื้อ สัปดาห์แรกวันที่ 7-12 ส.ค. เริ่มต้น กก. ละ 12 บาท และหลังจากนั้นเพิ่มราคาในทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 บาท จนสูงสุดช่วงวันที่ 3 ก.ย.ที่ กก.ละ 16 บาท ขณะที่ราคามะพร้าวผลที่พ่อค้าคนกลางรับซื้อ วันที่ 7-12 ส.ค. เริ่มต้นผลละ 4 บาท วันที่ 13-19 ส.ค. ที่ผลละ 4.33 บาท วันที่ 20-26 ส.ค.ที่ผลละ 4.67 บาท วันที่ 27 ส.ค.-2 ก.ย.ที่ผลละ 5 บาท และวันที่ 3 ก.ย.เป็นต้นไป ผลละ 5.33 บาท
ทั้งนี้ กรมฯ ยังได้ประชุมหารือร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรกร และโรงงานผลิตน้ำกะทิ เพื่อขอให้โรงงานผลิตน้ำกะทิ ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดมะพร้าว 35% ของผลผลิตทั้งหมด รับซื้อเนื้อมะพร้าวในราคาแนะนำเพื่อช่วยยกระดับราคาผลมะพร้าวสูงขึ้น เนื่องจากขณะนี้เกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวกำลังเดือดร้อนจากราคาผลผลิตตกต่ำ ขายได้เพียงผลละ 2-3 บาท ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตผลละ 6.19 บาท หลังจากปีนี้ผลผลิตจะมีมากกว่าปกติที่ออกมา 1 ล้านตัน ประกอบกับมีการนำเข้ามะพร้าวจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์เข้ามา แต่ไม่สามารถผลิตกะทิส่งออกได้ตามเป้าหมายเพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
“จะขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งระงับการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหาผลผลิตส่วนเกินล้นตลาด ขณะเดียวกัน จะตรวจสอบและติดตามผลอย่างใกล้ชิด หากพบว่าโรงงานยังไม่ปรับราคารับซื้อมะพร้าวให้เป็นไปตามข้อตกลง ก็จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้นำสินค้ามะพร้าวและผลิตภัณฑ์มะพร้าวขึ้นบัญชีสินค้าควบคุม” นายสันติชัยกล่าว