นักลงทุนญี่ปุ่นในไทยกว่า 50% สนใจขยายฐานการผลิตไปยังพม่า รุดหารือกระทรวงอุตสาหกรรมหวังขอความชัดเจนถึงแผนรัฐบาลไทย ด้าน “พงษ์สวัสดิ์” ยันอีก 2 เดือนแผนลงทุนไปพม่าจะเสร็จ
ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการหารือกับนายเซ็ทซึโอะ อิอูจิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) และคณะผู้บริหารจากหอการค้าญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ว่า ทางญี่ปุ่นได้สอบถามถึงทิศทางการลงทุนในพม่าของไทยภายหลังจากที่รัฐบาลไทยได้ลงนามความร่วมมือ (MOU) กับรัฐบาลเมียนมาร์ (พม่า) ล่าสุด โดยแจ้งว่านักลงทุนญี่ปุ่นที่มีฐานการผลิตในไทยกว่า 50% สนใจที่จะขยายฐานการผลิตไปยังประเทศพม่า
“เราได้ชี้แจงว่า ปัจจุบันรัฐบาลกำลังทำแผนงานร่วมกันที่จะพัฒนาการค้าและการลงทุนที่ไม่ได้มองเพียงเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย แต่จะดูการลงทุนภาพรวมที่มองไปยังเมืองอื่นๆ เช่น ร่างกุ้ง ที่จะเชื่อมกับชายแดนไทย โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ซึ่งการไปลงทุนของญี่ปุ่นในพม่ามีหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งไทยจะได้ประโยชน์ในแง่ของซัปพลายเชนที่เข้มแข็งในการป้อนชิ้นส่วนและวัตถุดิบไปยังพม่าและการลงทุนในไทยเอง ญี่ปุ่นก็จะใช้เป็นฐานผลิตระดับภูมิภาค” รมว.อุตสาหกรรมกล่าว
นอกจากนี้ นักลงทุนญี่ปุ่นโดยเฉพาะที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครมีความกังวลต่อแผนการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำที่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ จึงต้องการให้กระทรวงอุตสาหกรรมนัดกับผู้พัฒนานิคมฯ มาหารือถึงแนวทางดำเนินงาน ขณะเดียวกันยังต้องการให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ผ่อนคลายมาตรการที่ห้ามโรงงานในนิคมฯ สร้างกำแพงล้อมรอบโรงงานสูงเกิน 3 เมตร ซึ่งเรื่องนี้ได้ชี้แจงไปว่าไม่น่าจะมีปัญหาเนื่องจากตัวอย่างของบริษัทเวสเทิร์น ดิจิตอลเองก็ทำกำแพงล้อมรอบอีกชั้นหนึ่ง แม้ว่านิคมฯ ที่ตั้งอยู่จะมีกำแพงกั้นน้ำแล้วก็ตาม
