วุฒิชาติสั่งฝ่ายเดินรถห้ามฉายหนังล่อแหลม รุนแรง ไม่เหมาะสม "เลือดท่วมจอ...หวิว" บนรถโดยสาร หลังถูกผู้โดยสารร้องพนักงานเปิดหนังไม่เหมาะสมและถูกบังคับดูทั้งคัน ด้าน "เจ๊เกียว" ยอมรับไม่มีมาตรการควบคุมเพราะเป็นอำนาจของเจ้าของรถ รับไปหารือสมาชิกหาแนวทางเพื่อสร้างความพอใจแก่ผู้โดยสาร
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า จากที่มีการร้องเรียนการให้บริการบนรถ บขส.ว่ามีการเปิดภาพยนตร์ที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากมีพฤติกรรมล่อแหลม รุนแรง ประเภทสงคราม และการกระทำทางเพศ ในขณะที่ผู้โดยสารที่ใช้บริการนั้นมีหลากหลายทั้งวัยและเพศนั้น เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมาได้ทำหนังสือไปยังฝ่ายธุรกิจการเดินรถ บขส.สั่งการให้หามาตรการป้องกันและกวดขันพนักงานประจำรถในการนำภาพยนตร์ไปเปิดบนรถโดยสาร โดยจะต้องไม่เป็นภาพยนตร์ที่ไม่เหมาะสม เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความพึงพอใจมากที่สุด
"ต้องขอขอบคุณผู้ที่แจ้งเรื่องดังกล่าวเข้ามายัง บขส. ซึ่งจะนำข้อมูลที่ได้รับไปปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป พร้อมกันนี้ ทาง บขส.ได้ตอบกลับไปยังอีเมลของผู้ที่ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวแล้วว่าได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร" นายวุฒิชาติกล่าว
นางสุจินดา เชิดชัย หรือเจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสาร กล่าวยอมรับว่า ในส่วนของผู้ประกอบการรถร่วมฯ บขส. ยังไม่มีมาตรการหรือหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการนำภาพยนตร์ไปเปิดฉายบนรถโดยสาร เพราะเรื่องดังกล่าวถือเป็นอำนาจหน้าที่ของบริษัทผู้ให้บริการแต่ละรายจะเป็นผู้พิจารณาเองว่าจะนำภาพยนตร์ ละคร หรือรายการอะไร ไปเปิดให้ผู้โดยสารรับชม
ซึ่งที่ผ่านมายังไม่ทราบว่ามีผู้โดยสารร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องการนำภาพยนตร์ที่ไม่เหมาะสมไปเปิดให้ผู้โดยสารรับชมบนรถโดยสารของสมาชิกของสมาคม แต่หากมีการร้องเรียนเข้ามาก็พร้อมจะดำเนินการแก้ไข โดยจะประสานงานไปยังรถโดยสารของบริษัทนั้นๆ ให้ดำเนินการแก้ไขต่อไป
ทั้งนี้ เบื้องต้นจะทำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมสมาคมในการประชุมครั้งต่อไป โดยจะทำเป็นวาระเพิ่มให้เพื่อพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสมให้เกิดความพึงพอใจกับผู้โดยสารมากที่สุด ขณะเดียวกันก็จะมีการพิจารณาให้มีการนำภาพยนตร์ที่ดูได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไปเปิดบนรถโดยสารด้วย
“หากมีการร้องเรียนเข้ามาสมาคมก็พร้อมจะดำเนินการตรวจสอบ ตักเตือนให้ และหากต้องการให้กระบวนดังกล่าวรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทางผู้ร้องเรียนควรจะแจ้งว่าเป็นรถโดยสารสายไหน เส้นทางใด เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินการด้วย แต่เมื่อสมาคมรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ก็จะพยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกับสมาชิกของสมาคมเพื่อให้เกิดความพึงพอใจกับผู้โดยสารมากที่สุดต่อไป”นางสุจินดากล่าว
โดยผู้ร้องเรียนใช้ชื่อว่า Apapan Seeherunwong Bangkok, Thailand เขียนหัวเรื่องว่า ยุติการฉายหนังรุนแรงบนรถโดยสาร และมีนโยบายหนังที่เหมาะกับผู้โดยสารเด็ก โดยระบุว่า ได้ใช้บริการรถโดยสารของ บขส. หรือ รถทัวร์ 999 ครั้งล่าสุด เดินทางจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพ พราะหลังจากที่ขึ้นรถที่สถานีกลางทาง และนั่งประจำที่ได้สักพัก ก็เริ่มรู้สึกว่าภาพของหนังที่กำลังฉายอยู่บนรถมีความรุนแรงมากเป็นพิเศษ ทำให้มีความรู้สึกอึดอัด และไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
ซึ่งหนังเรื่องดังกล่าวมีทั้งฉากฉุดกระชากข่มขืน ฆ่าตัดคอ ยิงเลือดสาด ฯลฯ และเป็นแบบนี้แทบจะทั้งเรื่อง อยากจะหลับตาหนี แต่เสียงก็ยังเข้ามาในหู รู้สึกเหมือนถูกยัดเยียดให้ต้องรับภาพและเสียงที่มีความรุนแรง และได้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้โดยสารคนข้างๆ ที่ใช้บริการบ่อยว่า เธอได้ชมภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวบนรถสายนี้หลายครั้งแล้ว รู้สึกเช่นเดียวกับผู้โดยสารคนอื่นๆ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ และในฐานะที่เป็นแม่ นึกถึงเด็กๆที่่เดินทางมากับพ่อแม่บนรถคันนั้นอย่างยิ่ง แล้วก็นึกถึงตัวเองด้วยว่าหากจำเป็นจะต้องพาลูกนั่งรถทัวร์แล้วเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก จะยังนั่งอยู่อย่างนั้นเอามือปิดหูปิดตาลูกจนหนังจบดี หรือว่าจะทำอะไรอย่างอื่นได้บ้าง
จึงอยากเรียกร้องให้ บริษัท ขนส่ง จำกัด ยุติการฉายภาพยนตร์ที่มีความรุนแรงบนรถโดยสาร การเปิดภาพยนตร์บนรถโดยสารทางไกลในลักษณะที่ทำให้เสียงกระจายทั่วรถเป็นการบังคับให้รับสื่อโดยตรง การหลีกหนีแทบเป็นไปไม่ได้ ผู้ใช้บริการโดยเฉพาะเด็กมีโอกาสที่จะซึมซับเนื้อหาความรุนแรงเข้าไปจนอาจเกิดพฤติกรรมเลียนแบบได้
"ในเมื่อได้เสียเงินจ่ายค่าบริการรถทัวร์ ก็ควรจะมีสิทธิที่จะได้รับชมสื่อที่มีคุณภาพมากกว่านี้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่สื่อที่ตั้งใจแสดงออกถึงความรุนแรงอย่างโจ่งแจ้งและตลอดเวลา ระหว่างพักทานอาหารกลางทาง พยายามจะบอกพนักงานประจำรถว่าหนังที่ฉายรุนแรงมากเพื่อว่าครั้งหน้าเขาจะได้ระมัดระวังมากขึ้น แต่ได้รับคำตอบว่าไม่มีแผ่นหนังอื่นจะฉาย เลยเข้าใจว่าบริษัท ขนส่ง จำกัด คงจะไม่มีนโยบายให้กับพนักงานว่าควรจะฉายหนังประเภทไหน ผลก็คือ การฉายหนังให้ผู้โดยสารขึ้นอยู่กับรสนิยมและจำนวนแผ่นซีดีหนังของพนักงานประจำรถ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาว ดิฉันจึงขอเรียกร้องให้บริษัทขนส่งต้องมีแนวปฏิบัติในการฉายภาพยนตร์บนรถให้เหมาะสมกับผู้โดยสารทั่วไปทั้งเด็กและผู้ใหญ่มากขึ้นด้วย"