สำนักงาน ททท. นิวเดลี เร่งทำการตลาดเชิงรุก เจาะ 4 กลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมาย ระดับไฮเอนด์ แดนโรตี ตั้งเป้าปี 2556 เกิน 1 ล้านคน ชี้คู่แข่งผุดขึ้นใหม่เพียบ ทั้งมาเลเซีย มัลดีฟส์ และมอริเชียส โหมทำตลาด
นางรัญจวน ทองรุต ผู้อำนวยการสำนักงานนิวเดลี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รับผิดชอบพื้นที่อินเดียตอนเหนือและตะวันออก บังกลาเทศ ภูฏาน เนปาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดอินเดียเริ่มมีคู่แข่งขันเข้าไปทำการตลาดมากขึ้น ได้แก่ มาเลเซีย , สาธารณรัฐมอริเชียส และมัลดีฟส์
ทั้งนี้ จากการเปรียบเทียบกับคู่แข่งขันทั้ง 3 ประเทศดังกล่าว ยังพบว่าประเทศมาเลเซียมีอัตราค่าบริการและค่าครองชีพเฉลี่ยแล้วแพงกว่าประเทศไทย 20% ส่วนประเทศ มอริเชียสยอมรับว่าเป็นตลาดใหม่ที่กำลังมาแรง แต่เทียบราคากับประเทศไทยก็ยังแพงกว่าราว 40% อีกทั้งมีระยะการเดินทางที่ไกลกว่า ส่วนเกาะมัลดีฟส์ ซึ่งมีพื้นที่ขนาดเล็กกว่าไทยมาก จึงรองรับได้เฉพาะกรุ๊ปขนาดเล็ก
นางรัญจวนกล่าวว่า แผนการตลาดประจำปี 2556 เป้าหมายดึงชาวอินเดียมาประเทศไทยที่ 1.07 ล้านคน เพิ่มจากปี 2555 ที่คาดว่าจะทำได้ 9.7 แสนคน โดยมี 4 กลุ่มเป้าหมายที่จะเจาะตลาด ประกอบด้วย กลุ่มแรก ตลาดแต่งงาน คาดว่าในปีนี้จะมีคู่รักชาวอินเดียเดินทางมาจัดพิธีแต่งงานในประเทศไทยถึง 100 คู่ และปี 2556 จะผลักดันตลาดนี้ให้เติบโตอีก 5% ซึ่ง 6 เดือนแรกปีนี้มีชาวอินเดียเฉพาะที่นิวเดลีเดินทางมาจัดพิธีแต่งงานแล้วถึง 50 คู่ รวมชาวอินเดียที่เดินทางมาร่วมงานแล้วถึง 12,000 แพกเกจ โดยพักเฉลี่ย 3 คืน 4 วัน มีการใช้จ่ายต่อคนสูงราว 20,000 บาทต่อคนต่อวัน หรือประมาณ 4 เท่าของนักท่องเที่ยวปกติที่ใช้จ่ายต่อวันที่ 5,000 บาท หรือมีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริป 3.3-3.5 หมื่นบาท
ส่วนกลุ่มที่สอง คือตลาดกอล์ฟ จะเจาะนักธุรกิจชาวอินเดียซึ่งเริ่มหันมาเล่นกอล์ฟมากขึ้น แต่ในอินเดียมีสนามเพียง 150 แห่ง ขณะที่สนามกอล์ฟในไทยมีจำนวนมาก
กลุ่มที่สาม คือสุขภาพ เน้นเจาะตลาดผู้หญิงอินเดียนำเสนอว่าไทยเป็น “วีเมน เฟลลี เดสติเนชัน” เชิญชวนมาทำสปา และความสวยความงาม กลุ่มเป้าหมายคือ “คิดตี้คลับ” ซึ่งเป็นภรรยานักธุรกิจชาวอินเดีย ที่รวมตัวกันเป็นสมาคม เพื่อมาสังสรรค์
กลุ่มสุดท้าย จะทำตลาดกลุ่มเยาวชน GEN X และ Y อายุไม่เกิน 35 ปี เพราะเป็นสัดส่วนประชากร 50% ของประชากรทั้งประเทศ 1,200 คน ซึ่งวางแผนทำตลาดผ่านเว็บไซต์บอลลีวูด ขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ ที่เป็นเฟิสต์วิสิเตอร์ เพื่อให้เกิดความประทับใจ และเป็นฐานนักท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานฯ ยังวางแผนขยายพื้นที่การตลาดไปสู่เมืองรองในอินเดีย โดยเฉพาะแถบตะวันออกของประเทศ ซึ่งใช้ระยะเวลาบินมาไทยเพียง 2 ชั่วโมง คนกลุ่มนี้มีเงินสดพร้อมจับจ่ายจำนวนมาก เพียงแต่ไม่มีข้อมูลให้เขาตัดสินใจ โดยในเมืองรองๆ เหล่านี้ ทางสำนักงานฯ จะนำภาคเอกชนร่วมเดินทางโรดโชว์นำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวด้วย
นางรัญจวน ทองรุต ผู้อำนวยการสำนักงานนิวเดลี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รับผิดชอบพื้นที่อินเดียตอนเหนือและตะวันออก บังกลาเทศ ภูฏาน เนปาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดอินเดียเริ่มมีคู่แข่งขันเข้าไปทำการตลาดมากขึ้น ได้แก่ มาเลเซีย , สาธารณรัฐมอริเชียส และมัลดีฟส์
ทั้งนี้ จากการเปรียบเทียบกับคู่แข่งขันทั้ง 3 ประเทศดังกล่าว ยังพบว่าประเทศมาเลเซียมีอัตราค่าบริการและค่าครองชีพเฉลี่ยแล้วแพงกว่าประเทศไทย 20% ส่วนประเทศ มอริเชียสยอมรับว่าเป็นตลาดใหม่ที่กำลังมาแรง แต่เทียบราคากับประเทศไทยก็ยังแพงกว่าราว 40% อีกทั้งมีระยะการเดินทางที่ไกลกว่า ส่วนเกาะมัลดีฟส์ ซึ่งมีพื้นที่ขนาดเล็กกว่าไทยมาก จึงรองรับได้เฉพาะกรุ๊ปขนาดเล็ก
นางรัญจวนกล่าวว่า แผนการตลาดประจำปี 2556 เป้าหมายดึงชาวอินเดียมาประเทศไทยที่ 1.07 ล้านคน เพิ่มจากปี 2555 ที่คาดว่าจะทำได้ 9.7 แสนคน โดยมี 4 กลุ่มเป้าหมายที่จะเจาะตลาด ประกอบด้วย กลุ่มแรก ตลาดแต่งงาน คาดว่าในปีนี้จะมีคู่รักชาวอินเดียเดินทางมาจัดพิธีแต่งงานในประเทศไทยถึง 100 คู่ และปี 2556 จะผลักดันตลาดนี้ให้เติบโตอีก 5% ซึ่ง 6 เดือนแรกปีนี้มีชาวอินเดียเฉพาะที่นิวเดลีเดินทางมาจัดพิธีแต่งงานแล้วถึง 50 คู่ รวมชาวอินเดียที่เดินทางมาร่วมงานแล้วถึง 12,000 แพกเกจ โดยพักเฉลี่ย 3 คืน 4 วัน มีการใช้จ่ายต่อคนสูงราว 20,000 บาทต่อคนต่อวัน หรือประมาณ 4 เท่าของนักท่องเที่ยวปกติที่ใช้จ่ายต่อวันที่ 5,000 บาท หรือมีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริป 3.3-3.5 หมื่นบาท
ส่วนกลุ่มที่สอง คือตลาดกอล์ฟ จะเจาะนักธุรกิจชาวอินเดียซึ่งเริ่มหันมาเล่นกอล์ฟมากขึ้น แต่ในอินเดียมีสนามเพียง 150 แห่ง ขณะที่สนามกอล์ฟในไทยมีจำนวนมาก
กลุ่มที่สาม คือสุขภาพ เน้นเจาะตลาดผู้หญิงอินเดียนำเสนอว่าไทยเป็น “วีเมน เฟลลี เดสติเนชัน” เชิญชวนมาทำสปา และความสวยความงาม กลุ่มเป้าหมายคือ “คิดตี้คลับ” ซึ่งเป็นภรรยานักธุรกิจชาวอินเดีย ที่รวมตัวกันเป็นสมาคม เพื่อมาสังสรรค์
กลุ่มสุดท้าย จะทำตลาดกลุ่มเยาวชน GEN X และ Y อายุไม่เกิน 35 ปี เพราะเป็นสัดส่วนประชากร 50% ของประชากรทั้งประเทศ 1,200 คน ซึ่งวางแผนทำตลาดผ่านเว็บไซต์บอลลีวูด ขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ ที่เป็นเฟิสต์วิสิเตอร์ เพื่อให้เกิดความประทับใจ และเป็นฐานนักท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานฯ ยังวางแผนขยายพื้นที่การตลาดไปสู่เมืองรองในอินเดีย โดยเฉพาะแถบตะวันออกของประเทศ ซึ่งใช้ระยะเวลาบินมาไทยเพียง 2 ชั่วโมง คนกลุ่มนี้มีเงินสดพร้อมจับจ่ายจำนวนมาก เพียงแต่ไม่มีข้อมูลให้เขาตัดสินใจ โดยในเมืองรองๆ เหล่านี้ ทางสำนักงานฯ จะนำภาคเอกชนร่วมเดินทางโรดโชว์นำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวด้วย