“พาณิชย์” ฉาว! เกณฑ์คนทั้งกรม พร้อมจ้างคนนอกหัวละ 500 บาทจัดฉากต้อนรับนายกฯ “ปู” วันปฐมนิเทศร้านถูกใจ “บุญทรง” โวมีร้านค้าได้รับอนุมัติทะลุเป้าหมื่นแห่งแล้ว ยันไม่ได้ตัดไปรษณีย์ออก แต่ดึงเอกชนมาทำงานร่วมกัน ระบุจากนี้ไปส่งสินค้าให้ได้ภายใน 7 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า วันนี้ (16 ก.ค.) กระทรวงพาณิชย์ได้จัดโครงการปฐมนิเทศร้านถูกใจที่ได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการประมาณ 6,000 ร้านค้า ที่อาคารชาลเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มอบหมายให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ไปเป็นประธานเปิดงานแทน อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เดินทางมาในภายหลัง และเข้าร่วมเยี่ยมชมบูทร้านถูกใจ พร้อมถ่ายภาพก่อนที่จะเดินทางกลับ
โดยการจัดงานครั้งนี้ กรมการค้าภายในได้ตั้งเป้าที่จะมีคนไปร่วมงานสูงถึง 1,200 คน โดยมีแผนในการเกณฑ์คน คือ เกณฑ์ข้าราชการในสังกัดกรมการค้าภายในไปทั้งหมด ซึ่งได้สร้างความวุ่นวายให้ข้าราชการเป็นอย่างมาก และเกณฑ์คนนอก มีค่าใช้จ่ายให้หัวละ 500 บาท โดยได้ดำเนินการตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา และคนที่จะได้ 500 บาทจะต้องเอาสำเนาบัตรประชาชนมายืนยันและให้มาเซ็นรับเงินในวันจัดงาน
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้มีการปรับปรุงรูปแบบในการจัดส่งสินค้าให้ร้านถูกใจใหม่ โดยยังไม่ได้ตัดบริษัทไปรษณีย์ไทยออกจากโครงการ เพียงแต่มีการปรับแผนงานการขนส่งและกระจายสินค้า โดยให้เอกชน คือ บริษัท นิ่มซีเส็ง จำกัด ที่เป็นเครือข่ายเดิมของไปรษณีย์มาช่วยกระจายสินค้า และยังได้เปิดคอลเซ็นเตอร์ 0-2576-5111 จำนวน 100 คู่สาย ให้กรมการค้าภายในเป็นคนรับคำสั่งซื้อสินค้า และส่งต่อไปให้ผู้ผลิต จากผู้ผลิตจะส่งสินค้าไปให้แม็คโครเป็นผู้รวมหีบห่อ และถึงเป็นไปรษณีย์และบริษัทเอกชนมารับสินค้าไปจัดส่งให้ร้านถูกใจ
“หากทำได้ตามขั้นตอนดังกล่าว การจัดส่งสินค้าไปยังร้านถูกใจจะใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน และยืนยันว่าจะเดินหน้าโครงการร้านถูกใจต่อไป โดยล่าสุดกรมการค้าภายในได้เตรียมงบประมาณปี 2556 จำนวน 10-20 ล้านบาทมาดำเนินโครงการต่อ และขณะนี้มีร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการร้านถูกใจเกินเป้าหมาย 13,361 ร้านแล้ว และได้อนุมัติไปแล้วกว่า 10,635 ร้าน ซึ่งเชื่อว่าการจัดการระบบจัดส่งสินค้าให้เข้มแข็งจะทำให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้” นายบุญทรงกล่าว
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จำนวนร้านถูกใจไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่หากมีร้านถูกใจ 4,000-5,000 แห่งที่สามารถมีสินค้าวางขายให้ประชาชนได้เต็มระบบ ถือว่าโครงการประสบความสำเร็จแล้ว เพราะเป้าหมายร้านถูกใจคือการช่วยชะลอปรับขึ้นราคาสินค้าในตลาด ช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชน และยังชะลออัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับเหมาะสม