“สยามพิวรรธน์” ปรับเป้ายอดขายงาน “เซลมหัศจรรย์แห่งสยาม” เพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาท หรือดับเบิลจากเดิม 1,500 ล้านบาท ก่อนปิดศูนย์ฯ ยาว 4 เดือนเพื่อรีโนเวต
นางศิริเพ็ญ อินทุภูติ ผู้บริหารสายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเป้าหมายยอดขายเพิ่มขึ้นจากงาน “เซลมหัศจรรย์แห่งสยาม” ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ เป็นประมาณ 3,000 ล้านบาท จากเดิม 1,500 ล้านบาท หลังจากที่งานได้ผ่านไปแล้ว 11 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน และเดิมจะสิ้นสุดภายในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ ซึ่ง 3 วันสุดท้ายจะเป็นแบบมิดไนต์เซลด้วย ผลปรากฏว่ามีจำนวนลูกค้าเข้าศูนย์ฯ เพื่อจับจ่ายเพิ่มเป็น 200,000 คนในวันธรรมดา และเพิ่มเป็น 300,000 คนในวันเสาร์และอาทิตย์ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 200-300% จากเดิมที่มีปริมาณลูกค้าเดินเข้าศูนย์ฯ ประมาณ 100,000 คนต่อวันเท่านั้น และมากกว่าเดิมที่ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นไว้ที่ 50% ด้วย
ทั้งนี้ ร้านค้าแต่ละร้านสามารถทำยอดขายได้มากและสามารถครอบคลุมยอดขายที่หายไป 4 เดือนในช่วงปิดปรับปรุงใหญ่ของศูนย์ฯ ได้ด้วย ที่เราจะเริ่มปิดวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ ด้วยงบประมาณรวม 1,000 ล้านบาท ซึ่ง 11 วันที่ผ่านมาแต่ละร้านมียอดขายเพิ่มขึ้น 200-300% เช่น ร้าน KLOSET ของไทยทำยอดขายได้รวม 8 หลักในช่วง 11 วัน, แบรนด์เอสปรีทำยอดขายได้สูงสุดถึง 800,000 บาทต่อวัน แบรนด์เวิร์หชอปมียอดขายเพิ่มขึ้น 300% ขณะที่อีกหลายแบรนด์ต้องไปนำเอาสต๊อกสินค้าจากสาขาอื่นมาจำหน่ายด้วย เช่น จัสปาล เอสปรี แดปเปอร์ เป็นต้น นอกจากนั้นยังจะมีกลยุทธ์การสร้างยอดขายด้วยรูปแบบป็อปอัพ (POP UP) อีกในช่วงที่ปิดรีโนเวตศูนย์ฯ ด้วยการนำร้านค้าบางส่วนย้ายออกมาขายในพื้นที่ที่เตรียมไว้ในรูปแบบป็อปอัพ จำนวน 3 แห่ง คือ 1. แกรนด์ฮอลล์สยามดิสคัฟเวอรี่กว่า 10 ร้านค้า 2. ดิสคัฟเวอรี่ พลาซา พื้นที่ด้านล่างเชื่อมระหว่างสยามดิสคัฟเวอรี่ กับสยามเซ็นเตอร์ 11 ร้านค้า และ 3. ภายในสยามพารากอนอีก 30 ร้านค้า ซึ่งจะเป็นร้านค้าของกลุ่มไทยดีไซเนอร์ ซึ่งรูปแบบนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ
ปัจจัยที่ทำให้งานนี้สำเร็จเนื่องจาก 1. ลูกค้าประจำอยากร่วมชอปปิ้งเพื่อฉลองก่อนศูนย์ฯ จะปิดปรับปรุง 2. แต่ละแบรนด์ในศูนย์ฯ มีความพิเศษเฉพาะตัว และมีโปรดักต์มิกซ์ที่ดี 3. แบรนด์ดังกว่า 250 ร้านค้า ลดราคาจริงสูงสุดถึง 90% 4. กระแสตอบรับผ่านทางโซเชียลมีเดียช่วยกระตุ้นลูกค้ามาจับจ่าย
อย่างไรก็ตาม หากผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในวันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ มีมติออกมาในด้านลบต่อพรรคการเมืองที่ถูกร้องนั้น นางศิริเพ็ญให้ความเห็นว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อช่วง 3 วันสุดท้ายของงาน “เซลมหัศจรรย์แห่งสยาม” แน่นอน