โรบินสันคว้าสิทธิ์ “แอลเกิร์ล”

“โรบินสัน” เผยกลุ่มสินค้าแฟชั่นครึ่งปีแรกโต 20% ชี้เทรนด์แฟชั่นสไตล์ “Ready to Wear” ยังแรงไม่ตก พร้อมคว้าสิทธิ์เอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ “แอลเกิร์ล” หวังขยายฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่

นายเจอร์ลาร์ด แมคเกิร์ก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายบริหารสินค้า บริษัท ห้างสรรพสินค้า โรบินสัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ยอดขายรวมของกลุ่มแฟชั่นในครึ่งแรกปี 2555 ที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 20% ของยอดขายรวม ซึ่งแผนกของผู้หญิงเติบโต 20% ส่วนของแผนกผู้ชายเติบโต 15% และสินค้าที่มียอดจำหน่ายสูง คือ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า

ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าไพรเวตแบรนด์ของโรบินสัน ได้แก่ F.O.F, Ermis , Allure และ Yishion ยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมียอดขายเติบโตถึง 30% และปัจจุบันพฤติกรรมการชอปปิ้งสินค้าแฟชั่น ลูกค้ามียอดการใช้จ่ายเฉลี่ย 2,500 บาทต่อคนต่อครั้ง และซื้อไม่ต่ำกว่า 3 ชิ้นต่อครั้ง จากช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาจะอยู่ที่ 1,000 บาทต่อครั้ง ครั้งละไม่เกิน 1-2 ชิ้น นอกจากนี้ยังเห็นได้จากยอดขายในงาน Robinson Fashion Week ของทั้ง 2 ปีที่ผ่านมาสร้างยอดขายจากการจัดงานในแต่ละปีได้กว่า 16 ล้านบาท

ล่าสุดโรบินสันได้จัดงาน “Robinson Fashion Week 2012” ระหว่างวันที่ 20 -31 กรกฎาคม 2555 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ภายใต้ธีมคอนเซ็ปต์ “Runway Ready to Wear” นำเสนอรูปแบบคอลเลกชันเสื้อผ้าและเครื่องประดับจากเวทีแคตวอล์กมาสู่การสวมใส่จริงๆ ในชีวิตประจำวัน รวบรวมคอลเลกชันเสื้อผ้าที่นำเสนอรูปแบบและดีไซน์ให้สวมใส่ได้ในทุกโอกาส มีความเป็นแคชชวลเพิ่มลูกเล่นด้วยลายกราฟิกสีสันสดใส อาทิ เสื้อผ้าผู้หญิง จะเป็น Urban Sophisticate Realistic จะเป็นเสื้อผ้าสำหรับคนใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ ชอบความเงียบนิ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถใช้ได้จริง เป็นการแต่งตัวของคนในยุคปัจจุบันและไม่หวือหวามาก เป็นต้น

นอกจากนั้นจะเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ ซึ่งเป็น Exclusive Brands ของโรบินสัน กับ “แอล เกิร์ล” (Elle Girl) “ELLE Girl” ถือเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์น้องใหม่ 1 แบรนด์ แตกมาจากเสื้อผ้าเครื่องหนัง “แอล” (ELLE) สินค้ามีสีสันเปรี้ยวจี๊ด เหมาะสำหรับสาวที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงและกล้าแต่งตัว และยังมีลูกเล่นด้วยการใช้คาแรกเตอร์แบรนด์สาวสวยชื่อ “ลิลลี” สาวฝรั่งเศสวัย 22 ปี สูง 169 เซนติเมตร ที่ชอบเลี้ยงแมว เล่นโยคะ ชอบกินคัพเค้ก มีไลฟ์สไตล์เช่นเดียวกับสาวๆ ทั่วไป

“หลังจากที่ประสบความสำเร็จที่ผ่านมา ในปีนี้จึงกลับมาอีกครั้งของการเป็นผู้นำต้นแบบแฟชั่นโชว์สไตล์เรดีทูแวร์ครั้งแรกของธุรกิจแฟชั่นรีเทล เพื่ออัปเดตไลฟ์สไตล์เทรนด์ เพราะปัจจุบันพฤติกรรมการซื้อสินค้าของคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญต่อการ “ซื้อความสุข” ให้ตัวเองมากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มสินค้าแนวไลฟ์สไตล์ขยายตัวอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งเป็นการขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้เพิ่มมากขึ้น”

โดยตั้งเป้าหมายจะมีรายได้จากการจัดงานครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถไดรฟ์ทราฟฟิกลูกค้าได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 80,000 คน/วัน ในช่วงระยะเวลาการจัดงาน และผลักดันยอดขายกลุ่มสินค้าแฟชั่นทั้งปีนี้โตขึ้นไม่น้อยกว่า 15%