“เกษร” ผุดเฟส 2 ทุ่มงบ 3,500 ล้านบาทเป็นตึกสูง 30 ชั้นรวมออฟฟิศให้เช่าด้วย หวังเติมเต็มและรองรับการเปิดเออีซีปี 2558 พร้อมทุ่มอีก 400 ล้านบาทรีโนเวตใหญ่เกษรเดิมในรอบ 12 ปี มีแบรนด์ใหม่เพิ่มอีก 15%
นายชาญ ศรีวิกรม์ ประธานกรรมการ บริษัท เกษร แลนด์ แอสเซท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเกษร เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางงบประมาณลงทุนไว้ประมาณ 3,500 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างศูนย์การค้าเกษรส่วนขยายเฟส 2 บนที่ดิน 6 ไร่กว่าที่อยู่ติดกับโครงการเดิม โดยจะเป็นอาคารสูงประมาณ 30 ชั้น พื้นที่รวม 70,000 ตารางเมตร ทั้งออฟฟิศให้เช่าพื้นที่ 63,000 ตารางเมตร ประมาณ 26 ชั้น และศูนย์การค้าประมาณ 4 ชั้น พื้นที่ประมาณ 7,000 ตารางเมตร
การขยายเฟสที่สองเพื่อเป็นการเติมเต็มเฟสแรก ซึ่งจะทำให้มีหน้ายาวประมาณ 200 เมตร และยังเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 อีกด้วย เพราะเมื่อเปิดเออีซีจะมีผลทำให้นักธุรกิจเข้ามาทำงาน รวมทั้งจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งเกษรสามารถรองรับตลาดนี้ได้ โดยศูนย์การค้าเกษร 2 ที่เราจะก่อสร้างนี้จะไม่ได้เป็นแค่ลักชัวรีรีเทลเท่านั้น แต่จะเป็นลักชัวรีรีเทล ออฟฟิศด้วย
ตามแผนงานที่วางไว้เบื้องต้นคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปีจึงจะแล้วเสร็จเพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2557 เนื่องจากบริษัทต้องการปรับปรุงศูนย์การค้าเกษรแห่งแรกให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ก่อน
ส่วนเกษรเดิมนั้น บริษัทฯ มีแผนจะปรับปรุงใหญ่ในรอบ 12 ปีที่เปิดบริการมา คาดว่าต้องใช้งบรวมไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นของบริษัทฯ ประมาณ 400 ล้านบาท ที่เหลือเป็นมูลค่าของแต่ละแบรนด์ที่จะต้องรีโนเวตกันใหม่ โดยเกษรโฉมใหม่นี้จะพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “ลาเมซอง” เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของความเป็นผู้นำด้านลักชัวรีไลฟ์สไตล์ระดับโลก ส่วนพื้นที่จะยังคงมีเท่าเดิม 12,000 ตร.ม. คาดว่าเดือน ก.พ. 2556 จะเริ่มดำเนินการปรับปรุงและแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในเดือน ต.ค. 2556
สำหรับเกษรภาพลักษณ์ใหม่จะแบ่งออกเป็น 3 คอนเซ็ปต์ คือ 1. “เกษร เดอะ เฮาส์ ออฟ ลักซ์” เป็นโครงสร้างการออกแบบที่สร้าง “สตรีทฟรอนต์ มัลติเพิล แฟลกชิป คอนเซ็ปต์” บนพื้นที่ 5,000 ตร.ม. หรือที่ตั้งของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เช่น หลุยส์ วิตตอง และคริสเตียน ดิออร์ 2. ลักชัวรี เฮอริเทจ เป็นพื้นที่เอ็กซ์คลูซีฟจัดงานแฟชั่นผสมผสานศิลปะและบริการระดับไฮเอนด์ และ 3. คอนเซ็ปต์ไลฟ์สไตล์ไดนิ่ง ศูนย์รวมร้านอาหารนานาชาติชั้นนำ ซึ่งหลังจากปรับปรุงแล้วเสร็จคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 100% หรือ 8-9 ล้านคนต่อปี และจะมีร้านอินเตอร์แบรนด์ทั้งใหม่และที่มีอยู่แล้วในไทยเพิ่มขึ้น 15%
นายชาญ ศรีวิกรม์ ประธานกรรมการ บริษัท เกษร แลนด์ แอสเซท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเกษร เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางงบประมาณลงทุนไว้ประมาณ 3,500 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างศูนย์การค้าเกษรส่วนขยายเฟส 2 บนที่ดิน 6 ไร่กว่าที่อยู่ติดกับโครงการเดิม โดยจะเป็นอาคารสูงประมาณ 30 ชั้น พื้นที่รวม 70,000 ตารางเมตร ทั้งออฟฟิศให้เช่าพื้นที่ 63,000 ตารางเมตร ประมาณ 26 ชั้น และศูนย์การค้าประมาณ 4 ชั้น พื้นที่ประมาณ 7,000 ตารางเมตร
การขยายเฟสที่สองเพื่อเป็นการเติมเต็มเฟสแรก ซึ่งจะทำให้มีหน้ายาวประมาณ 200 เมตร และยังเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 อีกด้วย เพราะเมื่อเปิดเออีซีจะมีผลทำให้นักธุรกิจเข้ามาทำงาน รวมทั้งจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งเกษรสามารถรองรับตลาดนี้ได้ โดยศูนย์การค้าเกษร 2 ที่เราจะก่อสร้างนี้จะไม่ได้เป็นแค่ลักชัวรีรีเทลเท่านั้น แต่จะเป็นลักชัวรีรีเทล ออฟฟิศด้วย
ตามแผนงานที่วางไว้เบื้องต้นคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปีจึงจะแล้วเสร็จเพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2557 เนื่องจากบริษัทต้องการปรับปรุงศูนย์การค้าเกษรแห่งแรกให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ก่อน
ส่วนเกษรเดิมนั้น บริษัทฯ มีแผนจะปรับปรุงใหญ่ในรอบ 12 ปีที่เปิดบริการมา คาดว่าต้องใช้งบรวมไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นของบริษัทฯ ประมาณ 400 ล้านบาท ที่เหลือเป็นมูลค่าของแต่ละแบรนด์ที่จะต้องรีโนเวตกันใหม่ โดยเกษรโฉมใหม่นี้จะพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “ลาเมซอง” เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของความเป็นผู้นำด้านลักชัวรีไลฟ์สไตล์ระดับโลก ส่วนพื้นที่จะยังคงมีเท่าเดิม 12,000 ตร.ม. คาดว่าเดือน ก.พ. 2556 จะเริ่มดำเนินการปรับปรุงและแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในเดือน ต.ค. 2556
สำหรับเกษรภาพลักษณ์ใหม่จะแบ่งออกเป็น 3 คอนเซ็ปต์ คือ 1. “เกษร เดอะ เฮาส์ ออฟ ลักซ์” เป็นโครงสร้างการออกแบบที่สร้าง “สตรีทฟรอนต์ มัลติเพิล แฟลกชิป คอนเซ็ปต์” บนพื้นที่ 5,000 ตร.ม. หรือที่ตั้งของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เช่น หลุยส์ วิตตอง และคริสเตียน ดิออร์ 2. ลักชัวรี เฮอริเทจ เป็นพื้นที่เอ็กซ์คลูซีฟจัดงานแฟชั่นผสมผสานศิลปะและบริการระดับไฮเอนด์ และ 3. คอนเซ็ปต์ไลฟ์สไตล์ไดนิ่ง ศูนย์รวมร้านอาหารนานาชาติชั้นนำ ซึ่งหลังจากปรับปรุงแล้วเสร็จคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 100% หรือ 8-9 ล้านคนต่อปี และจะมีร้านอินเตอร์แบรนด์ทั้งใหม่และที่มีอยู่แล้วในไทยเพิ่มขึ้น 15%