ททท.ผวาวิกฤตยุโรป พร้อมปรับแผนรับฉุกเฉิน

ททท.ยันนักท่องเที่ยวตลาดยุโรปยังแกร่ง 5 เดือนโต 8% แต่ยังสั่งทุกสำนักงานเฝ้าระวัง และรายงานทุกสัปดาห์ ระบุในวิกฤตยังเป็นโอกาสเพราะไทยยังเป็นเดสติเนชันคุ้มค่าเงิน ด้านแผนตลาดปี 56 อัดกิจกรรมทุกรูปแบบ ขยายฐานนักท่องเที่ยวตลาดใหม่ เจาะกลุ่มไฮเอนด์ พร้อมจัดชาร์เตอร์ไฟลต์ในเมืองที่ไม่มีเที่ยวบินตรง หวังผลเป้าหมายดันรายได้ 2 ล้านล้านบาทตามนโยบายรัฐ

นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงาน ททท.ในยุโรปทุกแห่งติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปอย่างใกล้ชิด พร้อมรายงานความคืบหน้าทุกสัปดาห์ หากมีแนวโน้มที่จะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญก็พร้อมที่จะปรับแผนการทำงานและงบประมาณไปมุ่งดำเนินการในตลาดซี่งมีแนวโน้มที่ดีกว่า เบื้องต้นตัวเลขนักท่องเที่ยวตลาดยุโรป 5 เดือนแรกเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนยังเติบโต 7-8% การจองสายการบินก็ยังอยู่ในสถานการณ์ปกติ ขณะที่อังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ ก็ยังคงมีจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นปกติ

**ยันในวิกฤตไทยยังมีโอกาส**
จากการรวบรวมข้อมูลของ ททท.ยังพบว่ามีหลายตลาด อย่างอิตาลี และอีกหลายประเทศ กลับเลือกที่จะเดินทางมาประเทศไทยเพิ่มขึ้น แทนที่จะเดินทางไปเที่ยวอเมริกา หรือแอฟริกาใต้ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องที่พัก อาหาร และชอปปิ้งที่แพงกว่าไทย ฉะนั้นในวิกฤตก็ยังเป็นโอกาสที่ไทยยังได้เปรียบเรื่องความคุ้มค่าเงินจากค่าครองชีพที่ถูกกว่า ซึ่งนักท่องเที่ยวยุโรปจะใช้เงินในประเทศไทยที่ 4,000 บาทต่อคนต่อวัน

สำหรับแผนการตลาดของ ททท.ยังมุ่งทำตลาดในกลุ่มความสนใจพิเศษ หรือนิชมาร์เกตเพิ่มมากขึ้น เจาะตลาดนักท่องเที่ยวระดับบน ซึ่งไม่ถูกผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น กอล์ฟ, เวลเนสแอนด์สปา, ฮันนีมูน โดยมีตลาดเป้าหมายหลัก เช่น อังกฤษ อิตาลี เยอรมนี สแกนดิเนเวีย รวมถึงรัสเซีย และประเทศในกลุ่ม CIS ส่วนตลาดที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจอย่าง โปรตุเกส ไอแลนด์ กรีซ และสเปน ซึ่งเรียกว่ากลุ่ม PIGS เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเล็กเมื่อเทียบกับภาพรวมนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากยุโรป PIGS มีสัดส่วนเพียง 7% จากจำนวนนักท่องเที่ยวรวมตลาดยุโรปในปี 2554 ที่ 4.933 ล้านคน เติบโตจากปีก่อนหน้า 10% และปี 2555 ตั้งเป้าหมาย 5.12 ล้านคน เติบโต 7%

**จัดชาร์เตอร์ไฟลต์เปิดตลาดใหม่**
นางจุฑาพร กล่าวถึงแผนการตลาดปี 2556 และเป้าหมายนโยบายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาทภายในปี 2558 จะเร่งเปิดตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ จัดกิจกรรมสร้างการรับรู้ในกลุ่มบริษัทนำเที่ยว และการออกแคมเปญส่งเสริมการตลาดโฆษณาและประชาสัมพันธ์ เจาะตรงถึงนักท่องเที่ยวเป้าหมาย เจรจากับบริษัทนำเที่ยวจัดชาร์เตอร์ไฟลต์ในเมืองที่ไม่มีไฟลต์บินตรงหลายเมืองในรัสเซีย เช่น แถบฟาร์อีสต์, วลาดิวอสตอก, ไซบีเรีย เป็นต้น แนวคิดการจัดงานลักชัวรีมาร์ท เชิญบายเออร์จากต่างประเทศมาชมสินค้าในประเทศไทย พบเจรจาธุรกิจกับผู้ขาย ส่วนสินค้าท่องเที่ยวยังเสนอเรื่องของหาดทรายชายทะเล แต่เพิ่มเดสติเนชันใหม่ๆ เป็นทางเลือก เช่น กระบี่ และตรัง

ล่าสุดมีแนวคิดประมูลการจัดงานประชุมสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว คล้ายกับแอตต้าของประเทศไทย เฉพาะที่อยู่ในประเทศที่เป็นตลาดใหม่ มาจัดประชุมสมาชิกที่ประเทศไทย พร้อมรับฟังข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว นำชมแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนจัดโต๊ะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย

**ทำแอปพลิเคชันเจาะคนรุ่นใหม่**
อย่างไรก็ตาม เพื่อขยายตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ และกลุ่มเฟิร์สวิสิต ได้ใช้งบประมาณ 3 ล้านบาทจัดทำแอปพลิเคชัน Lifestyle Thailand บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ทำข้อมูลเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษเจาะ 8 กลุ่มไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ชอบค้นหาประสบการณ์การท่องเที่ยวด้วยตัวเอง โดยคัดเฉพาะสินค้าระดับไฮเอนด์ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวกว่า 300 แห่ง มอบส่วนลดพิเศษกว่า 20-50% ดาวน์โหลดฟรีที่ App store และ Android Market จัดทำมินิไซต์ Lifestyle Thailand Minisite ภายใต้เว็บ http:// lifestylethailand.tourismthailand.org