สนพ.เดินหน้าปรับปรุงเตาเผาเซรามิกระยะ3 ตั้งเป้าหมายลดใช้แอลพีจี1.2พันตัน/ปีคิดเป็นมูลค่า 36 ล้านบาทและลดก๊าซเรือนกระจกไม่น้อยกว่า 3,600 ตันต่อปี
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 55 สนพ. ได้เริ่มเดินหน้าโครงการ“ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานเชื้อเพลิงในเตาเผาและกระบวนการผลิตเซรามิก”เพื่อลดภาระต้นทุนการผลิตให้กับผู้ประกอบการระยะ 3 ระยะเวลาดำเนินงาน 18เดือน โดยมีเป้าหมายปรับปรุง 200 เตาเผาหรือปริมาตรเตารวมแล้วไม่น้อยกว่า 700 ลบ.ม. คาดว่าจะสามารถลดการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) ได้ถึง 1,200 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่าปีละ 36 ล้านบาท และลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ไม่น้อยกว่า 3,600 ตันต่อปี
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าววางรูปแบบการปรับปรุงประสิทธิภาพเตาเผาเซรามิค 3 แนวทางได้แก่ 1. ปรับปรุงเตาเดิม ที่มีผนังเซรามิกไฟเบอร์ชำรุดมาเป็นผนังเซรามิกไฟเบอร์ใหม่ 2.เปลี่ยนเตาเดิมหรือเตาผนังอิฐทนไฟ มาเป็นเตาใหม่ผนังเซรามิกไฟเบอร์ และ 3.เปลี่ยนเตาเดิมหรือเตาผนังอิฐทนไฟเป็นเตาใหม่ผนังเซรามิกไฟเบอร์ ร่วมกับการนำความร้อนส่วนทิ้งในปล่องกลับมาใช้ประโยชน์ ซึ่งเทคโนโลยีทั้ง 3 รูปแบบนั้น จะช่วยลดการใช้ก๊าซแอลพีจีในกระบวนการผลิตลงได้ประมาณ 15 - 50% โดยกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานจะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายปรับปรุงเตาเผาในวงเงินไม่เกิน25% ต่อเตา
ปัจจุบันมีการใช้ก๊าซแอลพีจีในภาคอุตสาหกรรมทั้งประเทศประมาณ 65,000 ตันต่อเดือน โดยอุตสาหกรรมเซรามิก มีปริมาณการใช้ประมาณ 4,000 ตันต่อเดือน คิดเป็น 6% ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเซรามิกนับเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศไทย สามารถส่งออกทำรายได้เข้าประเทศสูงถึงปีละ 20,000 ล้านบาท
