“ชุมพล” เตรียมหารือ “ยิ่งลักษณ์” แจ้งไทยมีลุ้นได้สิทธิ์จัดเวิลด์เอ็กซ์โป เร่งเตรียมความพร้อมสถานที่และประเทศ ด้านความคืบหน้าจัดแข่งฟอร์มูลาวัน เล็งใช้พื้นที่พืชสวนโลกฯ
นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า วันที่ 4 ก.ค. 55 จะร่วมประชุมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานผลการเดินทางไปชี้แจงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมโลก เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ สำนักงานมหกรรมโลก (BIE) โดยมีสมาชิกร่วมรับฟังกว่า 157 ประเทศ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นที่สนใจต่อสมาชิกและผู้รับฟัง โดยข้อมูลและธีมงานที่ประเทศไทยนำเสนอมีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งขันอีก 4 ประเทศที่ร่วมนำเสนอ ได้แก่ ตุรกี รัสเซีย บราซิล และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
“ตอนนี้มีความมั่นใจว่าโอกาสที่ประเทศไทยจะชนะการประมูลสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 จึงต้องขอหารือกับนายกรัฐมนตรีถึงการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยที่จะเป็นเจ้าภาพ ทั้งแผนการลงทุน การประเมินเงินที่จะใช้ลงทุน และรายได้ที่จะได้รับ รวมถึงการวางแผนการใช้พื้นที่ภายหลังเสร็จการจัดงาน”
นายชุมพลยังกล่าวถึงแผนการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศไทยอีกว่า ตอนนี้กำลังหารือกับเรดบูลและทีมผู้จัดการแข่งขันรถสูตร 1 (ฟอร์มูลาวัน) หาพื้นที่ใช้จัดแข่งขัน เบื้องต้นมองว่าเชียงใหม่ บริเวณที่ใช้จัดงานพืชสวนโลกฯ มีความเหมาะสม ใช้งบปรับพื้นที่เล็กน้อย แต่ได้ใช้ประโยชน์ และสร้างรายได้นำไปดูแลต้นไม้ แต่อาจจะมีเสียงรบกวนสัตว์บ้างเล้กน้อย ที่ต้องการเปลี่ยนจากแผนงานเดิมที่จะจัดที่ถนนราชดำเนินรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เพราะเห็นว่าอาจติดปัญหาหากมีการชุมนุมทางการเมือง และในการแข่งขันจะเกิดเสียงดังรบกวนประชาชนในชุมชนที่รถขับผ่าน
นอกจากนั้นยังได้รับการติดต่อจากทูตของประเทศกาตาร์ที่มาเข้าพบ โดยแสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนสร้างสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ในไทย โดยให้ประเทศไทยเป็นผู้บริหารจัดการให้ ซึ่งมองว่าหากสนใจเข้ามาลงทุนจังหวัดเชียงใหม่ก็น่าจะเหมาะสม
ส่วนตัวเลขรวมนักท่องเที่ยวปีนี้เชื่อมั่นว่าจะทำได้ 20 ล้านคน สร้างรายได้ 8 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีความกังวลเรื่องปัญหาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ซึ่งมีข่าวการทำร้ายนักท่องเที่ยวเป็นรายวัน จึงเตรียมที่จะมอบหมายให้สำนักงานตำรวจท่องเที่ยวเพิ่มกำลังพลเข้าไปดูแลพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ เพิ่มป้อมตำรวจท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยว
นายวราวุธ ศิลปอาชา ที่ปรึกษากรรมการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กล่าวว่า การเดินทางไปชี้แจงความคืบหน้าคราวนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งข้อมูลของประเทศไทยจะแซงหน้าคู่แข่งขัน 1 สเต็ป จึงมีข้อมูลเชิงลึก ซึ่งเหลือการนำเสนออีก 2 ครั้ง คือ พ.ย.ปีนี้ และ มิ.ย.ปี 56 เพื่อลงคะแนนโหวตเลือกประเทศที่จะชนะในเดือน พ.ย. 56 ซึ่ง BIE รู้สึกดีใจที่รัฐบาลไทยนำประเทศไทยเข้าชิงเป็นเจ้าภาพจัดงาน เวิลด์ เอ็กซ์โปเป็นวาระแห่งชาติ
ข้อเสียเปรียบของประเทศไทยคือ การทำงานแต่ละอย่างมีเงื่อนไขมาก ใช้เวลาในการตรวจสอบ ส่วนจุดแข็งของประเทศไทยคือ มีธีมงานและแนวคิดที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น จับต้องได้
นายวราวุธกล่าวถึงแนวคิดการนำงานจัดแสดงรถสูตรหนึ่ง แบบไฟฟ้า (อิเล็กทรอนิกส์ ฟอร์มูลาวัน) หรือ EF01 ว่าอยู่ระหว่างการดำเนินงาน เพราะถือเป็นงานแสดงนวัตกรรมรถยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือก แบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นรถไฟฟ้าที่มีความเร็วสูง ไม่ก่อให้เกิดเสียงดัง ซึ่งจะได้ฐานนักท่องเที่ยวจากผู้ชมที่ชื่นชอบกีฬาแข่งรถแล้วยังได้กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติด้วย คาดว่าจะสามารถจัดแสดงได้ภายในปีนี้ ใช้พื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งาน EF01 คาดว่าจะใช้งบจัดงานราว 40 ล้านบาท
นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า วันที่ 4 ก.ค. 55 จะร่วมประชุมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานผลการเดินทางไปชี้แจงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมโลก เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ สำนักงานมหกรรมโลก (BIE) โดยมีสมาชิกร่วมรับฟังกว่า 157 ประเทศ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นที่สนใจต่อสมาชิกและผู้รับฟัง โดยข้อมูลและธีมงานที่ประเทศไทยนำเสนอมีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งขันอีก 4 ประเทศที่ร่วมนำเสนอ ได้แก่ ตุรกี รัสเซีย บราซิล และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
“ตอนนี้มีความมั่นใจว่าโอกาสที่ประเทศไทยจะชนะการประมูลสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 จึงต้องขอหารือกับนายกรัฐมนตรีถึงการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยที่จะเป็นเจ้าภาพ ทั้งแผนการลงทุน การประเมินเงินที่จะใช้ลงทุน และรายได้ที่จะได้รับ รวมถึงการวางแผนการใช้พื้นที่ภายหลังเสร็จการจัดงาน”
นายชุมพลยังกล่าวถึงแผนการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศไทยอีกว่า ตอนนี้กำลังหารือกับเรดบูลและทีมผู้จัดการแข่งขันรถสูตร 1 (ฟอร์มูลาวัน) หาพื้นที่ใช้จัดแข่งขัน เบื้องต้นมองว่าเชียงใหม่ บริเวณที่ใช้จัดงานพืชสวนโลกฯ มีความเหมาะสม ใช้งบปรับพื้นที่เล็กน้อย แต่ได้ใช้ประโยชน์ และสร้างรายได้นำไปดูแลต้นไม้ แต่อาจจะมีเสียงรบกวนสัตว์บ้างเล้กน้อย ที่ต้องการเปลี่ยนจากแผนงานเดิมที่จะจัดที่ถนนราชดำเนินรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เพราะเห็นว่าอาจติดปัญหาหากมีการชุมนุมทางการเมือง และในการแข่งขันจะเกิดเสียงดังรบกวนประชาชนในชุมชนที่รถขับผ่าน
นอกจากนั้นยังได้รับการติดต่อจากทูตของประเทศกาตาร์ที่มาเข้าพบ โดยแสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนสร้างสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ในไทย โดยให้ประเทศไทยเป็นผู้บริหารจัดการให้ ซึ่งมองว่าหากสนใจเข้ามาลงทุนจังหวัดเชียงใหม่ก็น่าจะเหมาะสม
ส่วนตัวเลขรวมนักท่องเที่ยวปีนี้เชื่อมั่นว่าจะทำได้ 20 ล้านคน สร้างรายได้ 8 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีความกังวลเรื่องปัญหาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ซึ่งมีข่าวการทำร้ายนักท่องเที่ยวเป็นรายวัน จึงเตรียมที่จะมอบหมายให้สำนักงานตำรวจท่องเที่ยวเพิ่มกำลังพลเข้าไปดูแลพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ เพิ่มป้อมตำรวจท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยว
นายวราวุธ ศิลปอาชา ที่ปรึกษากรรมการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กล่าวว่า การเดินทางไปชี้แจงความคืบหน้าคราวนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งข้อมูลของประเทศไทยจะแซงหน้าคู่แข่งขัน 1 สเต็ป จึงมีข้อมูลเชิงลึก ซึ่งเหลือการนำเสนออีก 2 ครั้ง คือ พ.ย.ปีนี้ และ มิ.ย.ปี 56 เพื่อลงคะแนนโหวตเลือกประเทศที่จะชนะในเดือน พ.ย. 56 ซึ่ง BIE รู้สึกดีใจที่รัฐบาลไทยนำประเทศไทยเข้าชิงเป็นเจ้าภาพจัดงาน เวิลด์ เอ็กซ์โปเป็นวาระแห่งชาติ
ข้อเสียเปรียบของประเทศไทยคือ การทำงานแต่ละอย่างมีเงื่อนไขมาก ใช้เวลาในการตรวจสอบ ส่วนจุดแข็งของประเทศไทยคือ มีธีมงานและแนวคิดที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น จับต้องได้
นายวราวุธกล่าวถึงแนวคิดการนำงานจัดแสดงรถสูตรหนึ่ง แบบไฟฟ้า (อิเล็กทรอนิกส์ ฟอร์มูลาวัน) หรือ EF01 ว่าอยู่ระหว่างการดำเนินงาน เพราะถือเป็นงานแสดงนวัตกรรมรถยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือก แบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นรถไฟฟ้าที่มีความเร็วสูง ไม่ก่อให้เกิดเสียงดัง ซึ่งจะได้ฐานนักท่องเที่ยวจากผู้ชมที่ชื่นชอบกีฬาแข่งรถแล้วยังได้กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติด้วย คาดว่าจะสามารถจัดแสดงได้ภายในปีนี้ ใช้พื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งาน EF01 คาดว่าจะใช้งบจัดงานราว 40 ล้านบาท