xs
xsm
sm
md
lg

“พีน่า” ได้ใจ “ซานโตรินี” ติดลม ลุยค้าปลีกสวนสนุกแนวใหม่ต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“พีน่า กรุ๊ป” เดินถูกทาง พร้อมลงทุนลุยพัฒนาค้าปลีกแนวใหม่ผสมสวนสนุกต่อเนื่อง เผยมีพื้นที่ “เขาใหญ่-ภูเก็ต” รองรับแล้ว หลัง “ซานโตรินี” ชะอำส่อแววใส พร้อมทุ่มอีก 250 ล้านบาทลุยต่อเฟสที่สอง ผุดสวนน้ำ-รีสอร์ตปีหน้าอีก ฝันไกลหวังเทียบชั้นดิสนีย์แลนด์

นายสุพจน์ ตันติจิรสกุล ประธานบริษัท พีน่า กรุ๊ป กล่าวว่า จากนี้บริษัทฯ มีแผนงานที่ชัดเจนว่าจะลงทุนพัฒนาธุรกิจค้าปลีกแนวใหม่ที่ผสมผสานระหว่างสวนสนุกกับร้านค้าต่างๆ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภครุ่นใหม่เพิ่มขึ้นอีก หลังจากที่บริษัทฯ ใช้งบลงทุนกว่า 500 ล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงการแรก ชื่อ โครงการซานโตรินี พาร์ค ชะอำ ซึ่งเป็นรูปแบบค้าปลีกแนวใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Amused Shopping Experience” และได้เปิดบริการอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยได้ผลตอบรับค่อนข้างดี

โครงการซานโตรินี พาร์ค ชะอำ ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 60 ไร่ ขณะนี้มีร้านค้าเช่าพื้นที่ในโครงการประมาณ 70% จากจำนวนร้านค้าทั้งหมด 100 ร้านค้า ซึ่งได้ทดลองเปิดบริการมาก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน พบว่ามียอดลูกค้าเข้าใช้บริการ 10,000 คนในช่วงสุดสัปดาห์ วางเป้าหมายว่าจะคืนทุนภายใน 6 ปี

“เรามั่นใจแล้วว่าทิศทางที่เราเดินมาไม่ผิด โครงการซานโตรินี พาร์ค เป็นรูปแบบการดำเนินธุรกิจค้าปลีกแนวใหม่ที่เข้ามาตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว ซึ่งพีน่า กรุ๊ป มีประสบการณ์ทำธุรกิจในเมืองท่องเที่ยวมาเป็น 10 ปี จึงต้องเร่งขยายธุรกิจก่อนที่รายอื่นจะเข้ามาทำ ซึ่งขณะนี้เรามีพื้นที่ที่มีศักยภาพของบริษัทฯ รองรับไว้แล้ว 2 แห่ง คือ บริเวณเขาใหญ่ 60 ไร่ และภูเก็ตอีก 24 ไร่” นายสุพจน์กล่าว

นายสุพจน์กล่าวว่า หลังจากโครงการแรก ซานโตรินี พาร์ค ได้รับการตอบรับที่ดี บริษัทฯ เตรียมที่จะลงทุนเพิ่มอีก 250 ล้านบาทเพื่อขยายต่อเฟสที่สอง โดยเพิ่มโซนสวนน้ำ พื้นที่ประมาณ 12 ไร่ และจะซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อสร้างรีสอร์ท ขนาด 150 ห้อง อีกประมาณ 20 ไร่ เพื่อเติมเต็มโครงการซานโตรินี พาร์ค ให้เป็นแหล่งชอปปิ้งเพื่อการท่องเที่ยวและพักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบในเมืองไทย ในแนวทางเดียวกับดิสนีย์แลนด์ คาดว่าจะเปิดให้บริการส่วนเฟสที่สองนี้ได้ในปี 2556

สำหรับพีน่า กรุ๊ป เป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นรายใหญ่ของไทย ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาได้ขยายไลน์ธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีกในนาม “พรีเมียม เอาต์เลต” ปัจจุบันมี 7 สาขาเปิดบริการแล้ว คือ เพชรบุรี นครราชสีมา อุดรธานี พัทยา ภูเก็ต กระบี่ และสาขาล่าสุดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดให้บริการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ปีที่แล้วพีน่า กรุ๊ปมีรายได้รวม 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจเสื้อผ้า 1,000 ล้านบาท ธุรกิจพรีเมียม เอาต์เลต 2,400 ล้านบาท และมีโรงแรมไอรา บีช เกาะสมุย และโครงการซานโตรินี พาร์ค ชะอำ คาดว่าปีนี้ยอดรายได้จะเพิ่มขึ้น 15-20%
กำลังโหลดความคิดเห็น