โอเรียนท์ไทยเด้งรับมติ ครม.อนุมัติใช้สนามบินดอนเมือง ประกาศทยอยย้ายกลับสัปดาห์หน้า มั่นใจช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับการขยายตัวของนักท่องเที่ยว
นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานกรรมการบริหาร สายการบินโอเรียนท์ไทย กล่าวว่า โอเรียนท์ไทยมีความพร้อมที่จะย้ายกลับไปเปิดให้บริการลูกค้าที่สนามบินดอนเมือง โดยคาดว่าจะทยอยย้ายตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจนครบ พร้อมแจ้งให้ลูกค้าทราบเป็นระยะ ขณะที่ส่วนของธุรกิจเครื่องบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) จะย้ายมาสนามบินดอนเมืองเป็นล็อตสุดท้ายเพราะมีเรื่องตั๋วที่จองล่วงหน้า คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1-2 เดือน
“หลัง ครม.มีมติเปิดใช้สนามบินดอนเมือง และให้สิทธิประโยชน์เพื่อจูงใจสายการบินให้ย้ายกลับมาเพื่อลดความแออัดของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยโอเรียนท์ไทยมองว่าการย้ายครั้งนี้จะไม่ทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจ เพราะหากเป็นชาร์เตอร์ไฟลต์มาลงที่ดอนเมืองก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ส่วนการแข่งขันสิ่งสำคัญคือการให้บริการลูกค้า และมั่นใจว่ารัฐบาลจะให้สิทธิประโยชน์เท่าเทียมกันทุกสายการบิน”
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของสายการบินไทยแอร์เอเชีย จะเปิดแถลงข่าว การย้ายกลับสนามบินดอนเมืองในสัปดาห์หน้า
ทางด้านนายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานฝ่ายนโยบาย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า การย้ายสายการบินโลว์คอสต์มาให้บริการที่สนามบินดอนเมือง จะช่วยลดความแออัดให้แก่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสนามบินดอนเมืองรองรับผู้โดยสารได้ 25 ล้านคนต่อปี ส่วนสนามบินสุวรรณภูมิรองรับได้ 45 ล้านคนต่อปี แต่มีผู้โดยสารเข้าใช้บริการจริงมากถึง 55 ล้านคนต่อปี ทำให้เกิดภาพของความล่าช้าในบริการ และการเปิดใช้สนามบินดอนเมืองครั้งนี้ ยังถือเป็นแผนรองรับการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยว เพราะเมื่อรวม 2 สนามบินจะรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 70 ล้านคนต่อปี รวมถึงมั่นใจว่าผู้โดยสารจะเข้าใจเรื่องที่ไทยมี 2 สนามบินเพราะหลายประเทศก็เป็นเช่นนี้ เพียงแต่รัฐบาลต้องบริหารจัดการเรื่องการเชื่อมโยงระหว่าง 2 สนามบินให้ดี และการมีสนามบินมากกว่า 1 แห่ง สนามบินใดสนามบินหนึ่งยังช่วยรองรับหากไทยเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ทั้งเรื่องภัยธรรมชาติ ภัยการเมือง
ทางด้าน นางสาวมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส รักษาการนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า การมีสนามบิน 2 แห่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการให้บริการของสายการบิน และผู้โดยสารก็มีความสะดวก ก่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวได้มากขึ้น
นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานกรรมการบริหาร สายการบินโอเรียนท์ไทย กล่าวว่า โอเรียนท์ไทยมีความพร้อมที่จะย้ายกลับไปเปิดให้บริการลูกค้าที่สนามบินดอนเมือง โดยคาดว่าจะทยอยย้ายตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจนครบ พร้อมแจ้งให้ลูกค้าทราบเป็นระยะ ขณะที่ส่วนของธุรกิจเครื่องบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) จะย้ายมาสนามบินดอนเมืองเป็นล็อตสุดท้ายเพราะมีเรื่องตั๋วที่จองล่วงหน้า คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1-2 เดือน
“หลัง ครม.มีมติเปิดใช้สนามบินดอนเมือง และให้สิทธิประโยชน์เพื่อจูงใจสายการบินให้ย้ายกลับมาเพื่อลดความแออัดของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยโอเรียนท์ไทยมองว่าการย้ายครั้งนี้จะไม่ทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจ เพราะหากเป็นชาร์เตอร์ไฟลต์มาลงที่ดอนเมืองก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ส่วนการแข่งขันสิ่งสำคัญคือการให้บริการลูกค้า และมั่นใจว่ารัฐบาลจะให้สิทธิประโยชน์เท่าเทียมกันทุกสายการบิน”
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของสายการบินไทยแอร์เอเชีย จะเปิดแถลงข่าว การย้ายกลับสนามบินดอนเมืองในสัปดาห์หน้า
ทางด้านนายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานฝ่ายนโยบาย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า การย้ายสายการบินโลว์คอสต์มาให้บริการที่สนามบินดอนเมือง จะช่วยลดความแออัดให้แก่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสนามบินดอนเมืองรองรับผู้โดยสารได้ 25 ล้านคนต่อปี ส่วนสนามบินสุวรรณภูมิรองรับได้ 45 ล้านคนต่อปี แต่มีผู้โดยสารเข้าใช้บริการจริงมากถึง 55 ล้านคนต่อปี ทำให้เกิดภาพของความล่าช้าในบริการ และการเปิดใช้สนามบินดอนเมืองครั้งนี้ ยังถือเป็นแผนรองรับการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยว เพราะเมื่อรวม 2 สนามบินจะรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 70 ล้านคนต่อปี รวมถึงมั่นใจว่าผู้โดยสารจะเข้าใจเรื่องที่ไทยมี 2 สนามบินเพราะหลายประเทศก็เป็นเช่นนี้ เพียงแต่รัฐบาลต้องบริหารจัดการเรื่องการเชื่อมโยงระหว่าง 2 สนามบินให้ดี และการมีสนามบินมากกว่า 1 แห่ง สนามบินใดสนามบินหนึ่งยังช่วยรองรับหากไทยเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ทั้งเรื่องภัยธรรมชาติ ภัยการเมือง
ทางด้าน นางสาวมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส รักษาการนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า การมีสนามบิน 2 แห่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการให้บริการของสายการบิน และผู้โดยสารก็มีความสะดวก ก่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวได้มากขึ้น