ตม.ล็อกตัว “ปราโมทย์ นาครทรรพ” คดีชุมนุมฯ ส่งอัยการฟ้อง!

ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองล็อกตัว “ปราโมทย์ นาครทรรพ” แนวร่วมกลุ่มพันธมิตรฯ คาสนามบินสุวรรณภูมิ คดีชุมนุมสนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ ขณะเดินทางกลับจากต่างประเทศ เจ้าตัวให้การปฏิเสธ พร้อมถูกคุมตัวไปสอบที่กองปราบก่อนส่งตัวให้พนักงานอัยการทันที


วันนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ ควบคุมตัวนายปราโมทย์ นาครทรรพ แนวร่วมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ต้องหาตามหมายจับคดี ฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งฯ แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในคดีชุมนุมที่สนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ มามอบให้ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม หลังควบคุมตัวได้ขณะเดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่งพนักงานสอบสวน ใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง จึงควบคุมตัวส่งพนักงานอัยการต่อไป

นายปราโมทย์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมทั้งรีบเดินทางขึ้นรถยนต์สายตรวจกองปราบปรามไปยังสำนักงานอัยการทันที

ด้าน พ.ต.ท.สมเกียรติ ตันติกนกพร พนักงานสอบสวน (สบ 3) กก.1 บก.ป.กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งหมายเรียกให้นายปราโมทย์มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตามที่อัยการเสนอมาแล้ว แต่นายปราโมทย์อ้างว่าอยู่ต่างประเทศและจะขอเข้าพบเอง จนกระทั่งทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกครบ 3 ครั้ง จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับดังกล่าว ส่วนเรื่องการประกันตัวนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานอัยการ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะให้ประกันตัวเพราะนายปราโมทย์ถือเป็นบุคคลมีชื่อเสียงและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง

ต่อมาที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก เวลา 15.00 น. พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำตัวนายปราโมทย์ นาครทรรพ มาส่งให้อัยการฝ่ายคดีอาญา พร้อมสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมข้อหาฝ่าฝืน พระราชกำหนด ( พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งของหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ภายหลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้คุมตัวนายปราโมทย์ จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเดินทางกลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา

โดย น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความ ระบุว่า นายปราโมทย์ ได้ให้การปฏิเสธกับพนักงานสอบสวนทุกข้อหาแล้ว และเดินทางกลับได้โดยไม่ต้องยื่นประกันใหม่กับอัยการอีก ส่วนกลุ่มพันธมิตร ฯ ทั้งหมด 46 คนที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา สั่งให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติมขณะนี้คงเหลือนายการุณ ใสงาม อดีต ส.ว. เพียงคนเดียวเท่านั้น โดยการพิจารณาสำนวนอัยการนัดฟังคำสั่งประมาณเดือน เม.ย.นี้